สำหรับมุมมองที่น่าสนใจ ไม่ใช่เรื่องความแตกต่าง หากแต่ความแตกต่างเหล่านั้น จะสามารถทำให้ทั้งคู่เกิดการยอมรับ และปรับตัวเข้าหากันได้หรือไม่ เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากกว่าเสียอีก
แรกๆใครๆ ก็คิดแบบนั้นทั้งนั้น เพราะช่วงเวลาแห่งความหลง หรือตกหลุมรัก มันทำให้ทุกอย่างดูน่ายอมรับไปเสียหมด แต่พอใช้ชีวิตไปสักพักแล้ว อาจจะเกิดปัญหาในเรื่องสัมพันธภาพขึ้นมา ก็กลับมานั่งโทษกันไปโทษกันมาว่า เพราะอีกฝ่ายหนึ่งไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้
สิ่งที่ต้องมองว่า เพราะความที่เข้ากันไม่ได้ หรือความไม่เหมาะสมในหลายๆ ด้าน จึงทำให้ต้องเลิกรากันไป เป็นประเด็นที่น่าให้ความสำคัญมากกว่าเสียอีก
รักไม่มีพรมแดน...หรืออายุเป็นเพียง ตัวเลข
แรกๆใครๆ ก็คิดแบบนั้นทั้งนั้น เพราะช่วงเวลาแห่งความหลง หรือตกหลุมรัก มันทำให้ทุกอย่างดูน่ายอมรับไปเสียหมด แต่พอใช้ชีวิตไปสักพักแล้ว อาจจะเกิดปัญหาในเรื่องสัมพันธภาพขึ้นมา ก็กลับมานั่งโทษกันไปโทษกันมาว่า เพราะอีกฝ่ายหนึ่งไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้
สิ่งที่ต้องมองว่า เพราะความที่เข้ากันไม่ได้ หรือความไม่เหมาะสมในหลายๆ ด้าน จึงทำให้ต้องเลิกรากันไป เป็นประเด็นที่น่าให้ความสำคัญมากกว่าเสียอีก
ดังที่โบราณว่าไว้ “ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน ยามชังน้ำตาลก็ว่าขม” หรือ “เส้นผมบังภูเขา” เรามาดูกันว่า อะไรบ้างที่ทำให้เกิดปัญหาได้ในคู่รักต่างวัย
ความแตกต่างของอายุ ร่วมกับความแตกต่างของรูปลักษณ์ภายนอก ถ้าตนเองจิตใจมั่นคงก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์มาก และสู้คนที่อายุน้อยกว่าไม่ได้ ก็ย่อมเกิดปัญหา เช่น หึงหวง กลัวการสูญเสีย กลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไปในที่สุด
ความแตกต่างของอายุ ร่วมกับความแตกต่างของรูปลักษณ์ภายนอก ถ้าตนเองจิตใจมั่นคงก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์มาก และสู้คนที่อายุน้อยกว่าไม่ได้ ก็ย่อมเกิดปัญหา เช่น หึงหวง กลัวการสูญเสีย กลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไปในที่สุด
อายุที่แตกต่าง ย่อมมีผลต่อประสบการณ์ในชีวิตที่แตกต่างอย่างแน่นอน
ดังนั้น การเจอปัญหาในแต่ละวัน รวมถึงวิธีการแก้ปัญหาของแต่ละฝ่าย มักจะแตกต่างกัน ซึ่งมักจะลงเอยด้วยความขัดแย้งในที่สุด เช่นเดียวกันความแตกต่างเรื่องฐานะทางสังคม
ถ้าเอาเรื่องความแตกต่างมา เป็นตัวตำหนิ หรือการเปรียบเทียบกัน ก็ย่อมส่งผลให้เกิดความขัดแย้งและการไม่ยอมรับ เช่น การไม่ยอมรับจากครอบครัว ญาติพี่น้องของแต่ละฝ่าย ซึ่งมักจะตามมาด้วยการดูถูกเหยียดหยามกัน
ในที่สุด ชีวิตคู่ก็ไม่สามารถที่จะไปด้วยกันได้ และมักจะรู้สึกว่าตนเองเป็นคนที่ไร้ค่าในที่สุด ความแตกต่างทางความคิด และมุมมองของความรัก เรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะการมาใช้ชีวิตร่วมกันนั้น การที่จะสามารถคงความสัมพันธ์ที่ยาวนานไว้ได้ นั่นก็คือ
การที่ต่างฝ่ายต่างมีความรัก ความเมตตาต่อกัน
วิธีคิดที่น่าจะทำให้ใจสบายขึ้น กรณีที่เกิดรักต่างวัยขึ้นในชีวิตของคุณ เรื่องของอายุ ควรแตกต่างกันไม่เกินสิบปี และโดยทั่วไปสังคมมักจะให้ค่านิยมว่ าฝ่ายชายน่าจะมีอายุมากกว่าฝ่ายหญิง แต่ถ้าผู้ชายหายากจริงๆ (ในปัจจุบันก็อย่าไปคิดมากเลย อายุน้อยกว่าก็คงไม่เป็นไร)
เราคงไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความคิดของคนอื่นได้ ยิ่งอายุต่างกัน ย่อมพบว่าความแตกต่างก็จะมากขึ้นด้วย การปรับใจ เปลี่ยนความคิดตัวเอง ลดการควบคุม การพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงอีกฝ่ายหนึ่ง พร้อมทั้งยอมรับในความเป็นตัวตนของแต่ละคนให้ได้ ถ้ารู้สึกว่าความแตกต่างทางอายุมาทำให้ตนเองขาดความมั่นใจ ก็ลองค่อยๆ ทบทวนว่า ตนเองมีจุดดีในตัวเองอะไรบ้าง หมั่นมองตนเองในแง่มุมที่ดีบ่อยๆ เราก็จะพบว่าตัวเราเองไม่ได้ด้อยค่าอย่างที่เราคิดว่าเราเป็นจริงๆ
การคบคนที่อายุต่างจากเรามากๆ อาจจะมีโอกาสที่จะได้รับรู้เรื่องราวประสบการณ์ดีๆ ที่หลายๆคนอาจจะไม่มีโอกาสอย่างที่เราได้มาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีของเรา คิดเสียว่า การได้คบคนต่างวัยนั้นเหมือนมีแหล่งขุมทรัพย์ความรู้อยู่ใกล้ก็น่าจะถือว่าโชคดีกว่าคนอื่นๆ มากแล้ว ที่ต้องระวังความคิดของตนเองก็คือ อย่าคิดว่าการมีคู่รักต่างวัย เช่น คบกับคนที่อายุต่างกันมากๆ บางรายขนาดรุ่นพ่อรุ่นแม่ เพราะลึกในจิตใต้สำนึกกำลังโหยหาความรัก (ที่ขาดไป) จากพ่อหรือแม่ คงไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก เพราะการใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคต คงต้องเป็นความสัมพันธ์แบบคู่รัก หรือฉันสามี ภรรยา มิใช่การชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปในอดีต
จะเป็นความรัก ความสัมพันธ์แบบไหนก็แล้วแต่ คงไม่มีอะไรสำคัญมากกว่า การได้ลองพิจารณาดูว่า ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น อยู่บนพื้นฐานของความรัก ความเข้าใจ การรู้จักให้อภัย และปรับตัวซึ่งกัน และกันหรือไม่ ซึ่งจะเป็นตัวบอกถึงความยั่งยืน ในการใช้ชีวิตคู่ได้ดีกว่าสิ่งอื่นใด
นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ที่อยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ (ที่แอบแฝง) ย่อมนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนและนำไปสู่ความล้มเหลวของชีวิตคู่ในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น