พิพิธภัณฑ์อาวุธ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษา ร่องรอยประวัติศาสตร์การสู้รบระหว่างทหาร ในการปราบปรามกลุ่มคอมมิวนิสต์ ในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์พิษณุโลกและจังหวัดเลย เมื่อเราได้มาลองศึกษาประวัติของฐานยิงสนับสนุนอิทธิพบว่า คนไทยในอดีตต้องเสียสละทั้งชีวิตและกำลังทรัพย์เพื่อปกป้องทุกตารางนิ้วของประเทศไทยเอาไว้จากกลุ่มพรรคคอมมิวนิสต์
สำหรับประวัติของพิพิธภัณฑ์อาวุธแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ ใน พท. กองทัพภาคที่ 3 บริเวณรอยต่อ 3 จังหวัด พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลยมีประวัติการสู้รบมากกว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2511 ฝ่ายรัฐบาลสูญเสียกำลังพล และยุทโธปกรณ์จำนวนมากเพื่อล้มล้างอิทธิพล ผู้ก่อการคอมมิวนิสต์ หรือ ผกค. ในพื้นที่ปี 2524 พตท. 1617 ซึ่งมีหน้าที่ต่อสู้เอาชนะ ผกค. ในเขตพื้นที่เขาค้อได้เปิดยุทการ “ผาเมืองเผด็จศึก 1” เพื่อยึดและขับไล่ ผกค.
บริเวณเขาค้อ การปฏิบัติฝ่ายเราสามารถยึดเขาค้อได้ภายใต้ การยิงสนับสนุนของปืนใหญ่ จากฐานยิงสนับสนุนสมเด็จ (ฐานยิงสนับสนุนสมเด็จนี้เป็นฐานยิงของ พัน ป.3404 วัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์จาก ป.พัน 4 นครสวรรค์ และ ป.พัน 104 พิษณุโลก ฐานยิงสนับสนุนสมเด็จตั้งห่างจากเขาค้อ 7 กม.) ความสำเร็จนี้ ทำให้เราได้ก่อสร้างทางและขยายอิทธิพลเข้ามาในดินแดน ผกค. อย่างรวดเร็ว
การที่จะเอาชนะ ผกค. ในเขตงานเขาค้อได้โดยเด็ดขาดนี้ จำเป็นต้องใช้กำลังฝ่ายเราที่มีทั้งหมดโจมตีฐานที่มั่นของ ผกค. บริเวณเขาห้วยทราย ทุ่งสะเดาะพง – เขาตะเคียนโง๊ะ – เขาปู่ และบ้านหนองแม่นา ดังนั้น พตท. 1617 จึงมีนโยบายเปิดยุทธการ “ผาเมืองเผด็จศึก 2” ขึ้นเพื่อโจมตีฐานที่มั่น ผกค. ดังที่กล่าวมาแล้ว เพื่อให้การยิงปืนใหญ่เป็นไปอย่างต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่ปฎิบัติการจำเป็น ต้องย้ายปืนจากฐานยิงสนับสนุนสมเด็จมาตั้งยิงบนเขาค้อ (ฐานยิงสนับสนุนอิทธิปัจจุบัน) ได้เคลื่อนย้าย ปกค. 115 มม. 1 กระบอก ได้ตั้งยิงเมื่อ 17 ก.พ. 2524 และเคลื่อนย้าย ปกค. 105 มม. แบบ XM 618 ที่ ศอว.ทบ. เป็นผู้ผลิตและให้ ป.พัน 4 ทดลองใช้ในสนามจำนวน 2 กระบอก ดังนั้น พตท. 1617 จึงเปิดยุทการ “ผาเมืองเผด็จศึก 2”
อาวุธปืนใหญ่ขนาดกลาง กระสุนวิถีโค้ง 03 ขนาด 155 มม. ชื่อว่าพระยาตานี และปืนใหญ่เขา กระสุนวิถีโค้ง 95 ขนาด 105 มม. ชื่อ อินทรีกลืนช้าง ที่ใช้เป็นฐานยิงสนับสนุนทำให้การยิงให้หน่วยดำเนินกลยุทธในพื้นที่จนสามารถยึดและทำลายที่มั่น ผกค. เขตงานเขาค้อได้อย่างสิ้นเชิง
ฐานยิงฯ แห่งนี้ทำการยิงให้หน่วยดำเนินกลยุทธ์ ในพื้นที่จนสามารถยึดและทำลายที่มั่น ผกค. งานเขาค้อได้อย่างสิ้นเชิง ต่อมาฐานยิงนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า “ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ” เป็นอนุสรณ์แก่พันเอกอิทธิ สิมารักษ์ ผช.ผอ. พตท 1617 ซึ่งเสียชีวิตจาการบัญชาการรบที่เขาค้อ เพื่อนำผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตออกจาก พื้นที่การต่อสู้
การสู้รบระหว่างกำลังทหารกับ ผกค. บริเวณเขาค้อ เขาย่า ทุ่งสะเดาะพง เขาปู่ และหนองแม่นา ยุติลงสิ้นเชิงในปี พ.ศ. 2525 นับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่มิใช่ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งแต่เป็นของประชาชนชาวไทยทั้งปวงที่สามารถยุติความขัดแย้งและการใช้ กำลังอาวุธ ตัดสินปัญหามาสู่สันติและการร่วมมือกันพัฒนาประเทศ
ปัจจุบัน ฐานอิทธิ ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงก่อสร้างเพิ่มเติมให้เป็นพิพิธภัณฑ์อาวุธ โดยกองพันการปืนใหญ่ที่ 30 จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อเป็นอนุสรณ์การต่อสู้ของกองกำลังฝ่ายบ้านเมืองกับ ผกค.
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ภายในอาคารมีการจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ และเสื้อผ้าสิ่งของต่างๆ ที่เป็นของนักรบไทย ของ ผกค. ไว้มากมายทั้งเครื่องยิงจรวด RPG-2 ของจีนแดง เครื่องแต่งกายของ พลท.ไพโรจน์ จันทร์อุไร แม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งใช้ในยุทธการ “หักไพรี” ตั้งแต่ 8 -18 ธ.ค. 24 และยุทธการ “ผาเมืองเกรียงไกร” ตั้งแต่ 9 พ.ค – 6 มิ.ย. 25 ขณะดำรงตำแหน่ง ผบ.ม.3 และ ผอ.พตท.33 เครื่องแต่งกายของ พล.อ.สีมา ปาณิกบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งใช้ในยุทธการ “
อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ หมู่ที่ 13 ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ เป็นยอดเนินเขาสูงสุดของเขาค้อ เราก็มาถึงยอดเขาค้อที่มีหินอ่อนรูปทรงสามเหลี่ยม ตั้งตะหง่านอยู่ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความเสียสละของพี่น้องทหารหาญของชาติไทย ที่ต้องเสียสละทั้งชีพ และเลือดเนื้อเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้ไว้ให้รอดพ้นจากภัยของผู้หลง ผิดคิดร้ายต่อประเทศชาติ
อนุสรณ์แห่งนี้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชทานให้เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2527 เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจคนไทยทั้งชาติว่า “ยามใดที่คนไทยขัดแย้งกัน จะต้องมีการสูญเสียอย่างผู้กล้า 1,171 ชีวิต จารึกกับองค์อนุสรณ์ จงอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก”
อนุสรณ์แห่งนี้ สร้างโดยกองพันทหารช่างที่ 4 ออกแบบโดย ศาสตราจารย์ กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา ก่อสร้างโดยความร่วมมือและเงินบริจาคของประชาชนและ ข้าราชการทุกฝ่าย เป็นเงินประมาณ 6 ล้านบาท
ปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์อาวุธ และอนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้มาศึกษาประวัติศาสตร์ของการปกป้องประเทศ จากกลุ่มคนที่จะคิดแบ่งแยก หรือยึดครองประเทศไทยของเราและในช่วงนี้เป็นช่วง high season ของการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งพิพิธภัณฑ์อาวุธก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกของนักท่องเที่ยว ที่จะแวะมาเที่ยวชม ถ่ายภาพ เพราะมีจุดชมวิวที่สวยงามใหลายแห่ง ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังอำเภอเขาค้อสำหรับการเข้าชมสถานที่ จะเสียค่าบำรุงสถานที่คนละ 10 บาท เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 7.00- 17.00 น