ฝ่ายหญิงที่อายุมากก็จะนุ่งผ้าลาย ห่มผ้าแถบ ส่วนสาวๆ ก็จะนุ่งผ้าลายบ้าง นุ่งซิ่นบ้าง บางคนใจถึงก็ห่มสไบเฉียงพร้อมเพรียงกันมาตักบาตรที่ท้องสนามหลวงในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 1 เมษายน ส่วนคืนวันสุดท้ายของปีเก่าก็จะมีการเลี้ยงดูกันระหว่างครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหาย ไม่ไปกินไก่งวงเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสอย่างฝรั่งเขาของเรามีแต่การทำบุญตักบาตร เสียงเพลงวันปีใหม่จะก้องกังวานไปทั่วเมืองไทย ซึ่งผมขอถือโอกาสนำเอาเพลงวันขึ้นปีใหม่ 1 เมษายน มาตีพิมพ์เอาไว้ให้ผู้ที่เกิดทันได้รำลึกถึงเพลงปีใหม่ในยุคนั้น
เพลงเถลิงศก ของขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)
วันที่หนึ่ง เมษายน วันประถมปีใหม่ (เดิมวันตั้งต้นปีใหม่)
แสงตะวัน เรืองรองใส สว่างแจ่มจ้า
เสียงระฆัง เหง่งหง่างก้อง ร้องทักทายมา
ไตรรงค์ร่า ระเริงปลิว พลิ้วพลิ้วเล่นลม
(สร้อย) ยิ้มเถิด ยิ้มเถิดนะยิ้ม ยิ้มแย้มแจ่มใส สุขสำราญบานใจ ขอให้สวัสดีฯ
มองทางไหน มีชีวิต จิตใจทั้งนั้น
ต้อนรับวัน ปีใหม่เริ่ม ประเดิมปฐม
มาเถิดหนา พวกเรามา มาหย่อนอารมณ์
มาชื่นชม นิยมยินดี ขึ้นปีใหม่แล้ว
(สร้อย) ยิ้มเถิด ยิ้มเถิดนะยิ้ม ยิ้มแย้มแจ่มใส สุขสำราญบานใจ ขอให้สวัสดีฯ
สิ่งใดแล้ว ให้แล้วไป ไม่ต้องนำพา
สิ่งผิดมา ให้อภัย ให้ใจผ่องแผ้ว
สิ่งร้าวราน ประสานใหม่ ให้หายเป็นแนว
สิ่งสอดแคล้ว มาสอดคล้อง ให้ต้องตามกัน
(สร้อย) ยิ้มเถิด ยิ้มเถิดนะยิ้ม ยิ้มแย้มแจ่มใส สุขสำราญบานใจ ขอให้สวัสดีฯ
มาชื่นชม แสดงยินดี ในวันปีใหม่
มาทำใจ ให้ชื่นบาน ร่วมสมานฉันท์
มาเล่นหัว ให้เบิกบาน สำราญใจครัน
มารับขวัญปีใหม่ไทย อวยชัยไชโยฯ
(สร้อย) ยิ้มเถิด ยิ้มเถิดนะยิ้ม ยิ้มแย้มแจ่มใส สุขสำราญบานใจ ขอให้สวัสดีฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น