นรกใหญ่ขุมที่สองนี้เรียกว่า "กาฬสุตตะ" นรกด้ายดำ หรือนรกที่ลงโทษเหล่าสัตว์ตามเส้นด้ายดำ หรือนรกที่มีการลงโทษสัตว์นรกด้วยด้ายเหล็กดำ
เหตุที่เรียกเช่นนั้น เพราะสัตว์ในนรกนี้ จะถูกนิรยบาลลงโทษโดยการเอาด้ายดำมาตีเป็นเส้นตามร่างแล้วเอาเลื่อยมาเลื่อย บางครั้งเอาขวานมาผ่า หรือเอามีดมาเฉือนหรือกรีดไปตามเส้นดำที่ตีไว้ ไม่ให้ผิดรอยได้ นี่คือความหมายของกาฬสุตตนรก (กาฬดำ, สุตตเส้นด้าย)
นรกนี้ตั้งอยู่ใต้สัญชีวนรก รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวและลึกได้ 100 โยชน์ มีประตู 4 ประตู และมีนิรยบาลประจำอยู่ทุกประตู เพื่อคอยลงโทษสัตว์นรกด้วยวิธีต่างๆ (แหม...รู้ยังกับเคยลงนรกขุมนี้มายังงั้น)
ชีวิตพวกกาฬสุตตนรกบางพวก จะถูกนิรยบาลจับมัดให้นอนลงเหนือแผ่นเหล็กแดงยาวเหมือนร้อนลุกโชนด้วยไฟนรก จากนั้นก็เอา "ด้ายดำ" ซึ่งทำด้วย "เหล็กใหญ่เท่าต้นตาล" มาตีนาบบนร่างของสัตว์นรกนั้นให้เป็นรอยเส้น ตีนาบลงตรงส่วนไหน ก็เป็นรอยเส้นด้ายดำตรงนั้น ซึ่งรอยเส้นตรงนั้นเสมือนตีเส้นเพื่อการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ใช่แล้วละครับ...รอยเส้นขนาดใหญ่นั้น นิรยบาลจะเอาเลื่อยนรกไฟลุกแดงมาเลื่อยลงไปตามรอยเส้นนั้นจนร่างของสัตว์นรกนั้นขาดเป็นท่อนๆ หรือบางทีก็เอาขวานมาผ่า เอามีดมาเฉือน กรีดตามรอยเส้นด้ายดำร้อนจัดที่ตีเอาไว้
สัตว์นรก เมื่อถูกทรมานสากรรจ์แสนหวาดเสียวเช่นนั้น ก็ดิ้นรนทุรนทุรายร้องลั่นนรกด้วยความเจ็บปวด บางครั้งถึงกับทะลึ่งพรวดแสดงท่าทางฮึดฮัด หวังจะสลัดให้หลุดจากการลงทัณฑ์ของนิรยบาล แต่ถึงจะดิ้นพล่านอย่างไร นิรยบาลก็มิปรานี มีแต่บังคับจับมัดให้แน่นเข้าไปอีก แล้วทำการเลื่อยตัดร่างกายสัตว์นรกต่อไป
กาฬสุตตนรกบางพวก พอเห็นนิรยบาลถือเลื่อยมาแต่ไกล ก็ไม่อาจจะอยู่ตรงนั้น ต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่พอถูกนิรยบาลร้องตวาดใส่เสียงสนั่นก้องนรก ก็ยิ่งทำให้ตกใจกลัวสุดขีดหนีกันอุตลุดไปคนละทิศทาง แต่ถึงจะหนีก็ไม่รอด เพราะว่าบาปกรรมที่สัตว์เหล่านั้น ทำเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ไม่ให้หนีไปไหนได้กลับบันดาลให้มีแผ่นกระดานเหล็กคมกริบลุกโชนด้วยเปลวไฟ พร้อมทั้งมีเสียงดังน่ากลัวเหมือนฟ้าผ่าแล่นมาตัดที่ร่างของสัตว์นรกเหล่านั้น ให้ขาดเป็นท่อนๆ หล่นร่วงเกลื่อนกลาดไปในที่นั้นๆ เหล่าสัตว์นรกจะเสวยทุกขเวทนาอันร้ายกาจ เห็นปานนี้อยู่เป็นเวลานานแสนนาน จนกว่าจะหมดอกุศลกรรมที่ตนทำไว้แล้วจึงจะไปเกิดในภพภูมิอื่นขึ้นอยู่กับบุญกรรม
อยู่ในนรกนี้นานเท่าไรล่ะ ให้ดูที่เกณฑ์อายุของสัตว์ในกาฬสุตตนรกซึ่งอยู่ที่ 1,000 ปี หากเทียบเวลาของมนุษยโลกคือ 3โกฏิกับ 6 ล้านปี ของมนุษย์นั่นแหละ พอสัตว์นรกพ้นจากกาฬสุตตนรกแล้วอกุศลกรรมยังไม่สิ้นก็เลื่อนออกไปตกในนรกบริวารของกาฬสุตตนรก หากยังไม่สิ้นก็เลื่อนขึ้นมาตกในสัญชีวนรกแล้วก็เลื่อนออกไปตกในนรกบริวารของสัญชีวนรกทุกขุมๆ
ครั้นพ้นจากนรกเหล่านี้แล้วอกุศลกรรมยังไม่สิ้นก็ไปบังเกิดในเปรตวิสัย ดิรัจฉาน บางทีไปเกิดเป็นคนเข็ญใจ เป็นคนอายุไม่ยืน ง่อยเปลี้ยเสียขา พิการ โรคมาก เรียกว่าไปเกิดเป็นอะไรก็ไม่ดี ไม่สมบูรณ์ สมประกอบ
ถามว่าทำชั่วอะไรจึงมาเสวยวิบากกรรมในนรกขุมนี้
ท่านว่าเมื่อเป็นมนุษย์เป็นคนใจบาปหยาบช้า ชอบจับสัตว์ต่างๆ มาตัดเท้า ตัดหู จมูก ปาก ให้ทุกข์ทรมาน ชอบจุดไฟเผาป่าด้วยเจตนาให้สัตว์ตาย หรือไม่ก็มักลงไม้ลงมืประทุษร้ายบิดามารดา ครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณ ชอบลักขโมย ฉ้อโกง เป็นอาจิณ
รู้อย่างนี้ก็ไม่ควรทำบาปใดๆ