กรณีพฤษภาคม ๒๕๓๕ ซึ่งเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของประชาชนไทย เพราะไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่โต ผู้คนเข้าร่วมหลายแสนคน สามารถทำลายระบบเผด็จการทหารลงไปได้เท่านั้น หากยังนำมาสู่การสร้างสรรค์ประชาธิปไตย และการปฏิรูปทางการเมืองโดยเฉพาะการจัดทำและประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
ผู้ที่เข้าร่วมหรือรับรู้การต่อสู้ดังกล่าวคงยังจำได้ว่า การต่อสู้นี้เริ่มขึ้นตั้งแต่คืนวันที่ ๗ เมษายน เมื่อเรืออากาศตรีฉลาด วรฉัตร ไปนั่งอดข้าวประท้วงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.สุจินดา คราประยูร หน้ารัฐสภา การต่อสู้ค่อยๆ ขยายตัวกลายเป็นการต่อสู้ใหญ่ในเดือนพฤษภาคม ตั้งแต่วันที่๔ พฤษภาคม โดยใช้รูปแบบการต่อสู้ สลับกันไประหว่างการชุมนุมใหญ่กับการเดินขบวนหลายครั้งหลายที่และใช้โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์ติดตามตัว และโทรสารส่งข่าวและระดมคนมาชุมนุมและเดินขบวน ยุติลงด้วยชัยชนะในวันที่ ๒๔ พฤษภาคม เมื่อพล.อ.สุจินดา คราประยูร ลาออกจากตำแหน่ง
แต่ทว่า ลักษณะเด่นที่สุดของการต่อสู้ใหญ่เดือนพฤษภาคม เมื่อ๑๓ ปีที่แล้ว มิใช่ขนาดและรูปแบบของการต่อสู้ หากเป็นลักษณะของผู้นำและผู้เข้าร่วมการต่อสู้ ที่นอกจากส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลาง จนได้รับการเรียกขานว่า เป็น " ม็อบรถยนต์ หรือม็อบมือถือ " แล้ว ยังมีพรรคการเมืองที่รวมกันเป็นพันธมิตรประชาธิปไตย ๔ พรรค พรรคพลังธรรม พรรคความหวังใหม่ พรรคเอกภาพ และพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ การต่อสู้ของประชาชนไทยที่มีพรรคการเมืองมานำ และที่สำคัญ การต่อสู้กรณีพฤษภาคม ๒๕๓๕ ถูกปราบปรามอย่างนองเลือด มีคนเสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหาย หลายร้อยคนพวกเขาเป็นวีรชนประชาธิปไตย ผู้สละเลือด พลีชีพเพื่อโค่นล้มคณะผู้รักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ นำระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงคืนมา
ฉะนั้น เมื่อถึงเดือนพฤษภาคมทุกปี ผู้ที่ร่วมการต่อสู้ ญาติของวีรชน กลุ่มและองค์กรประชาธิปไตยจะจัดงานรำลึก เพื่อฟื้นความจำ เสริมความสำนึกทางประวัติศาสตร์ และสืบทอดภารกิจประชาธิปไตย รวมทั้งเพื่อติดตามความคืบหน้าในการสร้างอนุสรณ์สถานวีรชนพฤษภาคม และการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายในกรณีนี้
ความจริงแล้ว วัตถุประสงค์ทั้งหมดเคยเป็นมติคณะรัฐมนตรีมาหลายชุดโดยเฉพาะของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร สมัยที่แล้ว โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ในการจัดสร้างอนุสรณ์สถานในบริเวณสวนสาธารณะ ที่เป็นที่ตั้งเดิมของกรมประชาสัมพันธ์ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ เช่น การรักษาพยาบาล การให้ทุนศึกษา การฝึกอาชีพและฟื้นฟูสมรรถภาพ และการให้สิทธิค่าลดหย่อน หรือค่าบริการต่างๆ ของรัฐ และการจ่ายค่าทดแทน และความเสียหายสมควรที่จะได้รับตามความเหมาะสมจำเป็น และตามควรแก่กรณี ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผู้แทนคณะกรรมการอิสระฯ โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบไปพิจารณาดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องนี้ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
ทำไมต้องวางศิลาฤกษ์สร้างอนุสรณ์สถานวีรชนพฤษภาคมปีนี้ เหตุผลง่ายๆ ก็คือ จะต้องลงมือก่อสร้างได้แล้ว หลังจากที่รัฐบาลตั้งแต่รัฐบาลนายชวน หลีกภัย เคยมีมติคณะรัฐมนตรีให้จัดสร้างอนุสรณ์สถานฯที่สวนสันติพร มาตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๓๖ อย่าลืมว่า อนุสรณ์สถานวีรชน ๑๔ ตุลาคม ใช้เวลา ๒๗ ปี จึงเริ่มก่อสร้างกันได้ เพราะการเคลื่อนไหวสร้างอนุสาวรีย์วีรชนประชาชนไม่ว่ากรณีใดๆ เป็นการต่อสู้ทางความคิดและการเมือง มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะอำนาจส่วนหนึ่ง มักไม่เห็นด้วยให้สร้างอนุสาวรีย์ดังกล่าว
ส่วนประเด็นการหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์พฤษภาคม ๒๕๓๕ การลักพาตัวหรือ การอุ้มผู้มีความ
คิดทางการเมืองแตกต่างกัน ทั่งที่เกิดก่อนหน้าและหลังกรณีนี้ จากผู้นำคนงาน นายทนง โพธิ์อ่าน มาถึงทนายสมชาย นิละไพจิตร เท่าที่ศึกษาปัญหาคนหาย พอสรุปได้ว่า สังคมไทยไม่มีบทเรียนประสบการณ์ในการหาผู้สูญหาย ไม่เหมือนในหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ อินโดนีเชีย และศรีลังกา
ดังนั้น ในงานรำลึกพฤษภาประชาธรรม ๒๕๔๘ จึงเอาประเด็นนี้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยจะมีพ่อ แม่ ลูกเมียของผู้สูญหายมาเล่าถึงความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน และผู้ที่เคยร่วมการติดตามค้นหาผู้สูญหายมาถ่ายทอดบทเรียนประสบการณ์ให้ฟัง นี่จะเป็นส่วนหนึ่งของการรำลึกถึงกรณีพฤษภาคม ๒๕๓๕
ความจริงแล้ว กรณีนี้มีเรื่องที่จะต้องรำลึก สืบทอดอีกมาก ตั้งแต่สภาพทางการเมืองที่ทำให้นายทหารกลุ่มหนึ่ง ก้าวขึ้นมามีอำนาจและบทบาททางการเมือง จนนำไปสู่รัฐประหาร ของคณะผู้รักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (ร.ส.ช. ) เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๔ การมีรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับ ร.ส.ช. การเลือกตั้งทั่วไป ๒๕๓๕ /๑ และการขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ. สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี การอดอดอาหารและจัดเวทีประท้วงหน้ารัฐสภา การจัดชุมนุมใหญ่ของพรรคการเมืองพันธมิตรประชาธิปไตย การจัดชุมนุมใหญ่ที่สนามหลวงและการประกาศอดอาหารของพล.ต.จำลอง ศรีเมือง การชุมนุมใหญ่หน้ารัฐสภา และการเดินขบวนกลับไปยังสนามหลวง (๖ -๗ พ.ค.) การชุมนุมและเดินขบวนไปยึดถนนราชดำเนิน การจัดตั้งสมาพันธ์ประชาธิปไตย และเดิน
ขบวนการถูกสกัดกั้น จับกุมและปราบปราม (๑๗ -๑๘ พ.ค.) พระเจ้าอยู่หัวโปรดให้ พล.อ.สุจินดา และพล.ต.จำลองเข้าเฝ้า พล.อ.สุจินดา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามข้อเรียกร้องของประชาชน และกระแสสูงของการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยหลังกรณีนี้
สุดท้าย การรำลึก นึกถึงกรณีพฤษภาคม ๒๕๓๕ จะต้องประสานกับสภาพทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน และมองไปข้างหน้าว่า ดอกผล บทเรียนประสบการณ์ของการต่อสู้ใหญ่เดือนพฤษภาคมเมื่อ๑๓ ปีที่แล้ว ยังดำรงอยู่และนำมาใช้ได้เพียงใด
ขบวนการถูกสกัดกั้น จับกุมและปราบปราม (๑๗ -๑๘ พ.ค.) พระเจ้าอยู่หัวโปรดให้ พล.อ.สุจินดา และพล.ต.จำลองเข้าเฝ้า พล.อ.สุจินดา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามข้อเรียกร้องของประชาชน และกระแสสูงของการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยหลังกรณีนี้
สุดท้าย การรำลึก นึกถึงกรณีพฤษภาคม ๒๕๓๕ จะต้องประสานกับสภาพทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน และมองไปข้างหน้าว่า ดอกผล บทเรียนประสบการณ์ของการต่อสู้ใหญ่เดือนพฤษภาคมเมื่อ๑๓ ปีที่แล้ว ยังดำรงอยู่และนำมาใช้ได้เพียงใด