สิ่งที่อดทำไม่ได้คือ การลงไปนอนกองอยู่ตรงนั้น เอาหูแนบกับพื้นทราย ฟังเสียงคลื่นกระทบชายหาดและเสียงเรือหางยาว ที่แล่นอยู่ไกลๆ ความทรงจำเหล่านี้ ถูกบันทึกไว้ในโสตประสาท แม้จะหลายปีผ่านมาแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเลือนหายไป เพราะเรียกออกมาใช้ประโยชน์ ในยามที่รู้สึกเครียดจากการทำงานและเรื่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอยู่เสมอ
สมองของคนเรามีข้อดีมากๆ คือ มีความสามารถจดจำทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีได้เกือบทั้งหมด แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องรับรู้เรื่องเหล่านั้นพร้อมกันทีเดียว
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เราคงอยู่ไม่ได้ เพราะความคิดคงตีกันในสมอง เหมือนกับคนที่ป่วยทางจิต อารมณ์แปรปรวน ในสมองมีแต่ความสับสนปนเปเรื่องราวต่างๆ ไปหมดจนขาดสติ แต่ข้อเสียของสมองคนเราอย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีปุ่มลบทิ้ง (delete) เหมือนในคอมพิวเตอร์
วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราไม่เครียดได้ คือ ทำอย่างไรให้ความคิดที่เป็นลบ หรือความเครียดอ่อนแรงลงไป ด้วยการเติมสิ่งที่เป็นบวก หรือความสุขให้มีพลังมาทดแทน
วิธีเพิ่มพลังเซลล์สมองแห่งการผ่อนคลายแบบง่ายๆ
เริ่มต้นบอกตัวเองทุกวันว่า ฉันจะดูแลจิตใจของฉันทุกเวลา โดยเฉพาะในยามที่อ่อนล้าหมดกำลังใจ ข้อนี้สำคัญที่สุด ตราบใดที่คุณยังลังเลเรื่องการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะสุขภาพทางกายและใจ แถมบางคนก็มัวแต่ดูแลคนอื่น จนตัวเองเหนื่อยล้า แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธใดๆ รับรองได้ว่า คำแนะนำข้อถัดไปก็คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน
เมื่อบอกตัวเองแล้ว หันมาตั้งใจหาสิ่งที่ดีๆ ที่จะนำมาเข้าสู่ความคิดและจิตใจของตนเอง ด้วยการคิดทบทวนว่า กิจกรรมใดที่เราชอบทำ โดยเฉพาะการเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ หาประสบการณ์ใหม่ๆหรือเติมเต็มประสบการณ์ดีๆ ให้กับจิตใจของเราอยู่เสมอๆ เพราะการเพิ่มพลังแบบนี้ ก็เหมือนการไปชาร์จแบตเตอรี่ให้ชีวิตของเราเอง อย่ามัวแต่นั่งเครียด หรือวิตกกังวลอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม หรือจมอยู่กับงาน เพราะยังไงก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
เติมความรู้สึกที่เป็นบวกให้กับสมองและความคิดของตนเอง ด้วยการเข้าหาสิ่งที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด อย่าลืมว่าคนเราเกิดมาจากธรรมชาติ เราอยู่กับธรรมชาติมายาวนาน การห่างไกลจากธรรมชาติ เป็นตัวเพิ่มความเครียดที่ดีที่สุด การหาประสบการณ์จากการท่องเที่ยว หรือบำเพ็ญประโยชน์ให้กับธรรมชาติและสังคมรอบๆ ตัวคุณ และเพิ่มเติมว่า หากคุณสามารถอยู่ห่างๆ เทคโนโลยีทั้งหลายไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการหมกมุ่นอยู่กับสื่อสังคมออนไลน์ การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ก็น่าจะช่วยให้จิตใจสงบขึ้นได้มาก เนื่องจากไม่มีสิ่งมารบกวนจิตใจจนมากเกินความจำเป็น
นอกจากนี้ การผ่อนคลายทางร่างกาย เช่น การไปนวด ไปสปา ออกกำลังกาย เช่น โยคะหรือจ๊อกกิ้ง ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลตนเองและให้ผลดีกับเซลล์สมองของเราเช่นเดียวกัน
รู้ไหมว่า เซลล์สมองของคนเราถูกทำลายไปตามธรรมชาติทุกวัน และจะถูกทำลายมากขึ้นกว่าปกติ เมื่อมีความเครียดเกิดขึ้น จากการหมกมุ่นอยู่กับความเครียด วิตกกังวลและโดยเฉพาะความโกรธ การอยู่คนเดียวเงียบๆ เป็นการให้เวลากับสมองในการผ่อนคลาย จากอารมณ์ที่รบกวน จะทำให้สมองได้ปรับคลื่นใหม่ ที่ไม่ใช่คลื่นแห่งการทำลายเซลล์สมอง จะเป็นการช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้ดี โดยเฉพาะเซลล์มองที่เกี่ยวข้องกับ “ความจำ”
หลักการแห่งธรรมะ เป็นสิ่งสำคัญต่อการปรับสภาพความตึงเครียดของสมองให้ผ่อนคลายขึ้น มีรายงานการวิจัยบอกว่า การนั่งสมาธิและการวิปัสสนา จะช่วยให้การทำงานของสมองดีขึ้น และมีความสุขขึ้นโดยอัตโนมัติ
ทั้งนี้และทั้งนั้น การกระทำดังกล่าวควรมีครูบาอาจารย์คอยชี้แนะ ไม่แนะนำให้คนที่จิตใจสับสนมากๆ ไปนั่งวิปัสสนา เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิม
หากคิดอะไรยังไม่ออกก็อย่าลืม “การนอนหลับพักผ่อน” ให้เพียงพอก่อน ถือว่าเป็นตัวจุดประกายความคิดอื่นๆ ขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่แนะนำให้นอนมากจนเกินไป เช่น เกินวันละ 10 ถึง 12 ชั่วโมง อาจจะยิ่งทำให้สมองเฉื่อยชา เชื่องช้า และติดการนอนจนไม่อยากออกไปไหน อารมณ์อาจจะหดหู่แทนที่จะสดชื่น เมื่อพักผ่อนเต็มที่อารมณ์ดีขึ้น เชื่อว่า เดี๋ยวโปรแกรมท่องเที่ยวคงจะพรั่งพรูจนแทบจะเที่ยวกันไม่ทัน
ปลายปีแบบนี้ ฝนก็ตกน้อยลง อากาศเริ่มเย็นสบาย ฤดูกาลท่องเที่ยวและการเฉลิมฉลองของคนไทย เริ่มมาถึงอีกครั้งหนึ่ง คุณจะเก็บตัวอยู่ในบ้านหรือในห้องสี่เหลี่ยมหรือ
หากคิดอะไรยังไม่ออกก็อย่าลืม “การนอนหลับพักผ่อน” ให้เพียงพอก่อน ถือว่าเป็นตัวจุดประกายความคิดอื่นๆ ขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่แนะนำให้นอนมากจนเกินไป เช่น เกินวันละ 10 ถึง 12 ชั่วโมง อาจจะยิ่งทำให้สมองเฉื่อยชา เชื่องช้า และติดการนอนจนไม่อยากออกไปไหน อารมณ์อาจจะหดหู่แทนที่จะสดชื่น เมื่อพักผ่อนเต็มที่อารมณ์ดีขึ้น เชื่อว่า เดี๋ยวโปรแกรมท่องเที่ยวคงจะพรั่งพรูจนแทบจะเที่ยวกันไม่ทัน
ปลายปีแบบนี้ ฝนก็ตกน้อยลง อากาศเริ่มเย็นสบาย ฤดูกาลท่องเที่ยวและการเฉลิมฉลองของคนไทย เริ่มมาถึงอีกครั้งหนึ่ง คุณจะเก็บตัวอยู่ในบ้านหรือในห้องสี่เหลี่ยมหรือ
ออกไปสร้างประสบการณ์แห่งความสุข บันทึกไว้ในความทรงจำดีกว่าไหม
เผื่อวันใดวันหนึ่งต้องเรียกใช้ จะได้มีสำรองเยอะๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น