วัดศรีสุพรรณ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ วัดศรีสุพรรณ

จากประวัติศาสตร์อันยาวนาน 512 ปี ตามหลักศิลาจารึกบนหินทรายแดง กล่าวถึงประวัติวัดศรีสุพรรณไว้ว่า ราวพ.ศ.2043 พระเมืองแก้ว หรือ พระเจ้าพิลก ปนัดดาธิราช ร่วมกับพระราชมารดาเจ้า โปรดเกล้าฯ ให้ ขุนหลวงจ่าคำ นำพระพุทธรูปองค์หนึ่งมาประดิษฐานแล้วสร้างวัดแห่งนี้ขึ้น เดิมเรียกชื่อว่า “ศรีสุพรรณอาราม” ต่อมาได้สร้างมหาวิหาร พระบรมธาตุเจดีย์ พระอุโบสถหลังเดิม ผูกพัทธสีมาเมื่อพ.ศ.2052 พร้อมทั้งสร้างศาสนสถานอื่นๆ แล้วมอบพื้นที่รอบกำแพงทั้ง 4 ด้าน ด้านละ 20 วาให้แก่วัด และมอบข้าทาสไว้ดูแลวัดอีก 20 ครอบครัว

เมื่อปี พ.ศ.2547 ชาวบ้านและช่างฝีมือได้ร่วมกันสร้างพระอุโบสถเงินหลังแรกของโลก โดยมีปณิธานร่วมกันเพื่อ “ฝากศิลป์แก่แผ่นดินล้านนา ถวายไว้ในบวรพระพุทธศาสนา เทิดไท้องค์ราชันย์ รัชกาล ที่ 9” เนื่องจากพระอุโบสถหลังเดิมชำรุดทรุดโทรม ไม่สะดวกในการประกอบศาสนกิจ จึงคิดสร้างพระอุโบสถเงินบนฐานเดิม พัทธสีมาเดิม และพระประธานองค์เดิม โดยช่างภูมิปัญญาชาวบ้านร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานสลักลวดลายลงบนแผ่นเงินบริสุทธิ์ เงินผสมอะลูมิเนียม และวัสดุแทนเงิน ประดับตกแต่งทั้งภายนอกและภายในตลอดทั้งหลัง

องค์พระประธาน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า พระเจ้าเจ็ดตื้อ เป็นพระพุทธรูปขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอก สูง 4 ศอก ปางมารวิชัย เนื้อทองสัมฤทธิ์ ฝีมือช่างหลวง มีตำนานเล่าขานสืบกันมาว่า พระประธานองค์นี้ แสดงพุทธปาฏิหาริย์ลงสรงน้ำในสระข้างอุโบสถอยู่เป็นประจำ ประทานความสำเร็จสมปรารถนาสำหรับผู้มาอธิษฐานจิตกราบไหว้อยู่เนืองนิตย์ สถิตในจิตใจเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านศรีสุพรรณ และประชาชนทั่วไปตลอดมา

นอกจากพระอุโบสถเงินหลังเดียวของโลกแล้ว พระวิหารของวัดศรีสุพรรณ เปรียบดั่งโรงเรียนพุทธศิลปะชั้นเลิศของเมืองล้านนา เพราะได้แสดงฝีมือช่างในล้านนาทั้งสิบหมู่ไว้ในที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นช่างปั้น ช่างวาด ช่างดุน ช่างต้อง (ช่างตอกลาย) ช่างกระดาษ ช่างเขิน ช่างเงิน ช่างแกะสลัก ช่างลงรักปิดทอง ช่างดอกไม้ใบตอง

ภายในพระวิหารแบ่งเป็น 3 ส่วน เมื่อเข้าประตูไปแล้ว จะเป็นเรื่องราวของสิบหกชั้นฟ้าสิบห้าชั้นดิน และการปฏิบัติเพื่อเข้าสู่พระนิพพาน ในส่วนที่ 2 เป็นการรวบรวมรูปแบบของธาตุเจดีย์ และซุ้มโขงในล้านนาหลายร้อยแห่ง มาไว้ในจิตรกรรมฝาผนัง มีภาพพระธาตุประจำปีเกิดโดยศิลปินสุดยอดฝีมือของล้านนา 12 ท่าน ที่เขียนในปีเกิดของตน และส่วนที่ 3 คือเรื่อง พระพุทธองค์กับการหลุดพ้นจากห้วงวัฏสงสาร มีภาพพุทธชาดกบนแผ่นเงินตอกลายจำนวน 10 แผ่น ฝีมือศิลปินช่างเงินย่านวัวลายที่งดงามวิจิตร เรียกว่าเข้าไปแล้วหากชมเพื่อการศึกษาโดยพิจารณาอย่างละเอียด จะต้องใช้เวลาทั้งวัน

ในวัดศรีสุพรรณแห่งนี้ มีองค์พระพิฆเนศทั้งองค์ใหญ่และองค์เล็ก ภายในพระอุโบสถเงินหลายสิบองค์ พระพิฆเนศเป็นเทพที่มีผู้คนนับถือและเคารพมาก เนื่องจากเป็นเทพที่มีพระกรุณาเป็นหนึ่งในเทพทั้งหมด และถือเป็นปฐมเทพที่จะได้รับการบูชาก่อนเริ่มพิธีกรรมต่างๆ

วัดศรีสุพรรณจึงได้สร้างองค์พระพิฆเนศ บรมครูแห่งความสำเร็จ ขนาดหน้าตักกว้าง 1.25 เมตร สูง 1.50 เมตร ทรงเครื่องศิลปกรรมล้านนา และประกอบพิธีเทวาภิเษก ภายในหนึ่งวันหนึ่งคืน เพื่อประดิษฐานบนแท่นขันครูหลวง เป็นมิ่งขวัญของช่างสิบหมู่ล้านนา และสำหรับผู้มีจิตศรัทธาไว้บูชา

นอกจากนี้ยังมี พระบรมธาตุ วัดศรีสุพรรณ เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนแบบล้านนา ฝีมือช่างหลวง ทรงองค์ระฆังกลม บนฐานดอกบัวคว่ำบัวหงาย แปดชั้นแปดเหลี่ยม

ตั้งบนฐานรองรับทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สามสิบหก พระบรมธาตุเจดีย์ได้มีการบูรณะมาหลายครั้งแล้ว มีอายุประมาณเท่ากับพระวิหาร หรือหลังจากนั้นไม่นาน เพราะในพุทธศาสนาทางล้านนานั้น นิยมสร้างพระธาตุเจดีย์ไว้หลังพระวิหาร ว่ากันว่า หากลองไปยืนมองดูใกล้ๆ พระบรมธาตุเจดีย์ โดยยืนทางด้านทิศตะวันออกมุมองค์พระธาตุแล้วลองมองขึ้นไป จะเห็นพระบรมธาตุเจดีย์นี้เอียง

วัดศรีสุพรรณ ตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชนหัตถกรรมช่างหล่อ ถนนช่างหล่อ หัตถกรรมเครื่องเงิน เครื่องเขิน ถนนวัวลาย พระครูพิทักษ์สุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีสุพรรณ

คณะกรรมการวัด ภูมิปัญญาชาวบ้าน ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษ โดยการรวบรวมภูมิปัญญาชาวบ้าน จัดตั้งเป็น “กลุ่มหัตถศิลป์ล้านนาวัดศรีสุพรรณ”

ต่อมาศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนกาญจนาภิเษก ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้การสนับสนุนจัดตั้ง “ศูนย์ศึกษาศิลปะไทยโบราณ สล่าสิบหมู่ล้านนาวัดศรีสุพรรณ” ขึ้นภายในวัด

เพื่อถ่ายทอดและสืบสานงานศิลป์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และร่วมสนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยั่งยืนขึ้น เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น หัตถกรรมเครื่องเงินของชาวบ้าน มีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนในรูปแบบสหกรณ์

ไปเชียงใหม่คราวหน้า อย่าลืมเผื่อเวลาไว้สำหรับเที่ยวชมความงามของพระอุโบสถเงิน พระวิหาร และผลงานศิลปหัตถกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ วัดศรีสุพรรณ ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่แล้วจะได้รู้ว่าเชียงใหม่มีของดีให้ชมมากมายหลายอย่างจริงๆ

ไหว้พระที่พม่า

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ พระเจดีย์ชเวซานดอร์

พระเจดีย์ชเวซานดอร์ เมืองพุกาม ต้องปีนขึ้นไปถึงคอระฆัง  ได้ชมทะเลเจดีย์พุกามในภาพกว้างแบบพาโนรามาได้ทุกมุม 

การที่ไกด์พาขึ้นพระเจดีย์สูง เพื่อให้ชมวิวพระเจดีย์เมืองพุกาม ที่กล่าวกันว่ามองไปทิศไหนก็เห็นแต่พระเจดีย์ ทั้งนี้เมืองพุกามได้ชื่อว่าเป็นทุ่ง หรือทะเลเจดีย์ ในอดีตมีมากถึง 4 ล้านกว่าองค์ แต่ถูกภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ทำลายลงไปมาก คงเหลือประมาณ 4,000 องค์ในปัจจุบัน แต่ก็ยังหาประเทศอื่นในโลกเทียบไม่ได้ เรียกว่าเป็นเพียงแห่งเดียวในโลกก็ย่อมได้

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ พุกาม

พุกาม เป็นเมืองโบราณ มีมาก่อนกรุงสุโขทัย สร้างขึ้นประมาณปี 15871830 โดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ

มูลเหตุการสร้างพระเจดีย์จำนวนมากนั้น พระเทพดิลก (ระแบบ) เขียนในประวัติพระพุทธศาสนาในพม่าว่า เมื่อพระเจ้าอโนรธาสวรรคต หลังเสวยราชย์ 33 ปี จอลู ซึ่งเป็นพระราชโอรสขึ้นครองราชย์ แต่อยู่ได้ 2 ปี ก็ถูกปลงพระชนม์เพราะเกิดกบฎ ประชาชนเชิญแม่ทัพชื่อ กันชิต หรือกยันสิต ขึ้นนั่งเมือง ท่านผู้นี้สามารถปราบกบฏได้ราบคาบ แผ่อำนาจและอาณาเขตถึงตะนาวศรี ในรัชกาลนี้เอง ชาวพุทธอินเดียหลบหนีภัยจากอิสลามมาพม่าเป็นจำนวนมาก ผู้คนนั้นได้นำแบบแผนการสร้างพุทธเจดีย์เข้ามาด้วย ทำให้พระเจ้ากันชิตทรงโปรด จึงให้สร้างพระธาตุชเวสิดง ที่พระเจ้าอโนรธาทรงสร้างค้างไว้จนแล้วเสร็จ

ปี 1634 ทรงโปรดให้สร้างอานันทเจดีย์ขึ้น ซึ่งเป็นปูชนียสถานที่สวยงามแห่งหนึ่งในพม่า ต่อมามีการสร้างพระเจดีย์มากขึ้น กินพื้นที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร ริมฝั่งอิรวดี นอกจากพระราชามหากษัตริย์ทรงสร้างแล้ว ประชาชนทั่วไปก็สร้างตามด้วย แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเขาสร้างแต่พระเจดีย์อย่างเดียว มีทั้งขนาดเล็กใหญ่ตามกำลังทรัพย์และศรัทธา แต่สร้างในที่โล่งๆ เป็นทุ่งกว้างโดยไม่มีวัด หรือปูชนียสถานทางศาสนาอย่างอื่นในสถานที่สร้างเจดีย์ ยกเว้นพระพุทธรูป

รูปทรงพระเจดีย์ บางรูปบางทรงคล้ายกับวิหารฮินดู คือสร้างประโยชน์ใช้สอยที่ฐานเจดีย์ หรืออาจเรียกว่าวิหารในเจดีย์ก็ได้ ดังเจดีย์อานันดา ซึ่งเป็นพระเจดีย์งามที่สุดในพุกาม เป็นต้น

สำหรับพระพุทธรูปในย่านพุกามนั้นเป็นพระพุทธรูปที่พอเห็นแล้วต้องบอกว่าผิดจากพระพุทธรูปแบบพม่าที่เคยเห็นทั่วไป พระพุทธรูปพุกามพิจารณาแล้วมีพระพักตร์คล้ายกับพระผงสุพรรณพิมพ์หน้าแก่ โดยเฉพาะที่พระเจดีย์อโลว์ตอปี หรือหลวงพ่อสมปรารถนา หน้าเหมือนพระผงสุพรรณ เหมือนพิมพ์เดียวกัน

พระพุทธรูปในเจดีย์แห่งนี้ กรมศิลปากรพม่าขุดพบหลังจากพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งสมาธินิมิตเห็น โดยตอนแรกไม่มีใครเชื่อ แต่เมื่อขุดลงไปตามที่พระนิมิตเห็นพบว่ามีจริง ที่มีชื่อว่าสมปรารถนาเพราะคนไทยไปบนไว้แล้วได้สมปรารถนาจึงถวายชื่อเช่นนั้น จะเห็นพัดยศจำลองที่พระไทยนำไปถวาย สันนิษฐานว่าคงบนไว้ให้ได้เลื่อนสมณศักดิ์ เมื่อได้สมปรารถนาจึงนำไปถวาย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ พระธาตุอินทร์แขวน

พระธาตุอินทร์แขวน หรือพระเจดีย์ไจ้เที่ยว อายุกว่า 2,000 ปี  มีความมหัศจรรย์ที่เจดีย์องค์นี้เป็นหินก้อนใหญ่ น้ำหนักประมาณ 200 ตัน (คุณเกริก ตั้งสง่า) วิศวกร ประมาณการด้วยสายตาจากความกว้างและสูง) ตั้งอยู่บนหินอีกก้อนหนึ่งบนชะง่อนผา และอยู่อย่างนั้นมานานเป็นพันปีไม่หล่นลงมา ทั้งๆ ที่ดูแล้วไม่น่าจะอยู่ได้

ความอัศจรรย์นี้ก่อให้เกิดศรัทธาแก่ประชาชนชาวพุทธทั้งพม่า มอญ และไทย ทั้งๆ ที่ขึ้นไปบูชาด้วยศรัทธาแรงกล้า กว่าจะขึ้นไปถึงแสนจะลำบาก เพราะตั้งอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 ฟุต ต้องนั่งรถบรรทุกที่จัดสำหรับขึ้นเขาโดยเฉพาะ เครื่องยนต์และช่วงล่างระบบเบรกต้องสมบูรณ์ 100% บางช่วงโค้งหักศอกผ่านหน้าผา เห็นแล้วต้องหันหน้าไปมองทางอื่น ทุกคนต้องนั่งแบบเสียวๆ ไปประมาณ 10 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงจุดที่จะต้องเปลี่ยนจากรถยนต์เป็นเสลี่ยงคนหาม 4 คน เดินทางอีก 4 กม. ใช้เวลาอีก 40 นาที จึงถึงจุดหมายปลายทางกลางคืน และเช้ามืดบูชาพระธาตุอินทร์แขวนท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

ที่น่าสังเกต ตู้บริจาคเป็นสิบๆ ตู้ มีเงินเต็มเกือบทุกตู้ แต่เจ้าของสถานที่ตั้งไว้เฉยๆ โดยไม่ระแวงว่าจะหาย ตอนเช้ามืดขึ้นไปเห็นเขาเอาผ้าใบมาคลุมไว้เท่านั้น

ลงจากพระธาตุอินทร์แขวนก็มุ่งสู่หงสาวดี บูชาพระธาตุมุเตา หรือพระเจดีย์ชเวมอดอว์ พระเจดีย์คู่เมืองหงสาวดี สร้างสมัยเดียวกับพระเจดีย์ชเวดากอง เป็นเจดีย์สูงใหญ่ปิดทองทั้งองค์ เช่นเดียวกับพระเจดีย์ชเวดากอง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หงสาวดี

จากนั้นได้มาชมวังบุเรงนอง หรือผู้ชนะสิบทิศ ที่มอญพม่ารู้จักในนาม บะยิ่นหน่อง ส่วนวังเป็นวังสร้างใหม่ สนองความต้องการนักท่องเที่ยว (ไทย) เมื่อ 12 ปีมานี้เอง เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรให้เห็น นอกจากพื้นที่ว่างเปล่า ถามว่าวังบุเรงนองตั้งอยู่ที่ไหน เจ้าหน้าที่พม่าว่าไม่มีแล้ว ถูกเผาไปหมดสิ้น

จากหงสาวดีเข้าสู่นครย่างกุ้ง ตอนค่ำไปไหว้พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ที่เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา และประเทศพม่า หากใครมาพม่าไม่ได้ไปไหว้ไปชม ถือว่ายังไม่ถึงพม่า 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Mandalay

จากย่างกุ้งไปพุกาม จากพุกามไปมัณฑะเลย์ ที่มัณฑะเลย์ได้ชมวังของใหม่ที่สร้างในเขตพระราชฐานเดิม ส่วนวังเก่าที่พระเจ้าสีปอและนางศุภยลัต กษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่าเคยประทับก่อนเสียเมืองนั้นถูกเผาทิ้งช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ว่าเป็นฝีมืออังกฤษที่ไม่ต้องการให้ญี่ปุ่นครอบครอง

วันหนึ่งที่เมืองมัณฑะเลย์ ทุกคนต้องตื่นตี 3 เพื่อเดินทางไปไหว้พระมหามุนีในตอนเช้ามืด พระมหามุนีเป็นพระพุทธรูปทองเนื้อนิ่ม ที่ชาวพุทธพม่าจัดพิธีกรรมล้างหน้าติดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน และน่าจะเป็นเพียงแห่งเดียวในโลก

การล้างหน้าพระพุทธรูปเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่ง ขณะที่ทำพิธีอยู่นั้น พิณ พาทย์ ลาด ตะโพน บรรเลงตลอด 1 ชั่วโมง

ส่วนฆราวาสที่เข้าร่วมพิธีล้างหน้าพระพุทธรูปต้องแต่งชุดขาว พระสงฆ์ที่ทำหน้าที่ล้างหน้าต้องเป็นพระที่เถระผู้ใหญ่คัดเลือกแล้ว ล้างหน้าเสร็จได้ทำพิธีถวายข้าพระพุทธ ซึ่งชาวพุทธทั้งไทยและพม่าจัดหามา หรือซื้อ ณ ที่นั่นก็มีขาย ในราคาชุดละ 5,000 จ๊าด

เมื่อไหว้พระบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้ทุกท่านรู้สึกอิ่มบุญ ปลื้มปีติ และปรารถนาที่จะเดินทางมาอีก โดยเฉพาะท่านที่บนบานศาลกล่าวกับพระศักดิ์สิทธิ์ไว้ เมื่อได้ตามที่ปรารถนา ต้องกลับมาถวายของตามที่สัญญาหรือบนไว้