เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับนกปากขอ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นกปากขอ

"นกปากขอ" เป็นนกสวยงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในประเทศไทยเองมีความสามารถในด้านการเพาะพันธุ์นกปากขอได้หลายชนิด เช่น นกแก้ว นกหงส์หยก

นกแก้ว แยกออกเป็นชนิดต่างๆ ได้มากกว่า 300 ชนิด เข้าใจว่ามีพื้นเพที่อยู่อาศัยดั้งเดิมในป่าทึบ ในเขตร้อนของประเทศในแถบอเมริกาใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ นกในตระกูลนกแก้วมีปากคมแข็ง จะงอยปากงุ้มเข้า เท้ามีนิ้วข้างหลังสองนิ้วและข้างหน้าสองนิ้ว ทุกนิ้วมีเล็บแหลมคม สามารถใช้เท้าเกาะจับกิ่งไม้ได้

นกแก้วในประเทศไทย มีหลายชนิด เช่น นกแก้วโม่ง นกกะลิง นกแก้วหัวแพร นกแขกเต้า ผู้เลี้ยงนกในประเทศ ไทยนิยมเลี้ยงนกแก้ว เนื่องจากความฉลาดแสนรู้ และสามารถฝึกฝนให้แสดงความสามารถพิเศษได้ นกแก้วบางสายพันธุ์สามารถเลียนเสียงมนุษย์ได้ด้วย

ความนิยมในการเลี้ยงนกแก้วทุกวันนี้ มีกระแสความต้องการมากขึ้น มีทั้งผู้เลี้ยงเพื่อหารายได้เสริม เพื่อเพาะขยายพันธุ์ เลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เลี้ยงเพื่อฝึกให้นกแสดงความสามารถพิเศษ

สายพันธุ์ที่มีผู้นิยมเลี้ยงมาก ได้แก่ มาคอว์ เป็นนกแก้วสายพันธุ์ที่มีรูปร่างขนาดค่อนข้างใหญ่ และค่อนข้างได้รับความนิยมสูง เพราะความฉูดฉาดของสีสัน และรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความสง่าสวยงาม

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กระตั้ว

"กระตั้ว" เป็นนกแก้วที่สีสันอาจจะฉูดฉาดสู้มาคอว์ไม่ได้ แต่กระตั้วเป็นนกที่มีนิสัยน่ารัก ติดคน และขี้อ้อน ชอบพองขน ไปจนถึงชอบเต้น จนทำให้หลายๆ คนหลงรักนกชนิดนี้

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แอฟริกัน เกรย์

"แอฟริกัน เกรย์" เป็นนกแก้วขนาดกลางๆ ถึงแม้ว่าหน้าตาและสีสันอาจ จะไม่ค่อยฉูดฉาดมาก แต่เป็น สายพันธุ์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนกแก้วที่ฉลาดที่สุดในโลก มีการเปรียบเทียบว่าเป็นนกแก้วที่มีสมองพอๆ กับเด็กอายุประมาณ 4–6 ขวบเลยทีเดียว เป็นนกที่ชอบเลียนเสียงสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นกอเมซอน

"อเมซอน"  เป็นนกแก้วขนาดกลางๆ เป็นนกที่พูดเก่ง สามารถพูดประโยคยาวๆ ไปจนถึงสามารถจดจำและร้องท่อนฮุกของเพลงบางเพลง ไปจนถึงร้องเพลงที่มีเนื้อไม่ยาวมากนักได้จบเพลง และมีความหลากหลายทางสายพันธุ์มาก จัดได้ว่าเป็นนกแก้วอีกสายพันธุ์หนึ่งที่พูดได้เก่งมาก

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คอนัวร์

"คอนัวร์" เป็นสายพันธุ์ขนาดเล็ก มีสีสันสวยงาม ลักษณะจะเหมือนกับมาคอว์ในขนาดย่อส่วน มีการเลี้ยง ดูและดูแลที่ไม่ยุ่งยาก และเป็นนกที่มีนิสัยค่อนข้างเป็นมิตรกับทุกคน

นอกจากนี้ ยังมีนกแก้วอื่นๆ ที่กำลังได้รับความนิยม และเริ่มมีความต้องการมากขึ้น เช่น 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ฟอพัส

"ฟอพัส"  เป็นนกแก้วที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดในโลก 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เลิฟเบิร์ด

"นกแก้วเลิฟเบิร์ด" ซึ่งมีสีสันหลากหลายสวยงาม และเป็นสายพันธุ์ที่ได้พัฒนาเรื่องของสีที่มีความหลากหลายมาก

ผู้นิยมเลี้ยงนกจะทราบแหล่งซื้อหานกแก้วเป็นอย่างดี อย่างในตลาดสัตว์เลี้ยงที่ตลาดนัดจตุจักร และที่ตลาดนัดสนามหลวง 2 รวมถึงช่องทางการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้สนใจซื้อนก และผู้เพาะพันธุ์นก สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

คำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่สนใจจะเลี้ยงนก เริ่มตั้งแต่การเลือกลูกนกที่จะนำมาเลี้ยง เนื่องจากลูกนกเป็นสัตว์ที่ต้องการความดูแลเอาใจใส่ค่อนข้างมาก ผู้ที่คิดจะรับนกมาเลี้ยงจึงควรไตร่ตรองให้ดี ควรศึกษาลักษณะนิสัยของนกสายพันธุ์ต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกนก ที่คิดว่าเหมาะกับความต้องการและความสามารถในการเลี้ยงดูของตนเอง เพื่อสุขภาพที่ดีของนก และเพื่อที่ผู้เลี้ยงจะได้รับความสุขจากการเลี้ยงนกอย่างแท้จริง

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เวลาที่เหมาะจะนำนกใหม่มาเลี้ยงคือตอนเช้า เพราะนกจะต้องปรับตัวที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ หากนกถูกจับใส่กรงใหม่ตอนเย็น จะเกิดความวิตกกังวลสับสน เกิดความหวาดกลัว ในช่วงกลางคืนตลอดทั้งคืน ซึ่งนกบางตัวเมื่อมีอาการแปลกที่มากๆ อาจถึงกับตายได้

อาหารการกินของนกในวัยลูกป้อนนั้น ผู้เลี้ยงจะต้องดูแลและป้อนอาหารให้เหมาะสมกับวัยของนกในช่วงนั้นๆ จนกว่าจะถึงเวลาที่ลูกนกจะหัดกินเองได้ จึงหยุดป้อนนก อาหารป้อนสมัยนี้สะดวกสบาย เพราะมีผู้ผลิตอาหารสำหรับป้อนลูกนกแก้วโดยเฉพาะออกมาจำหน่าย มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ซึ่งที่ฉลากจะบอกวิธีการเตรียมอาหารอย่างถูกต้องไว้ให้แล้ว

เมื่อนกถึงวัยกินเองแล้ว ต้องให้นกได้รับน้ำที่สะอาดถูกหลักอนามัย และมีคุณค่าทางสารอาหารต่อนก อาหารโดยทั่วไปเน้นให้อาหารที่สะอาด มีการเปลี่ยนถ่ายอาหารและน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง อาหารของนกแก้วแบ่งเป็น 3 จำพวก ได้แก่ อาหารสด เป็นผัก หรือผลไม้ตามฤดูกาล ถั่วชนิดต่างๆ ต้มสุก อาหารแห้ง คือ เมล็ดธัญพืชชนิดต่างๆ ที่เหมาะสมกับนกในแต่ละสายพันธุ์ รวมถึงอาหารสำเร็จรูปสำหรับนกแก้วโดยเฉพาะ และอาหารเสริม เช่น วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ที่นกสมควรจะได้รับ เช่น แคลเซียม เป็นต้น

แหล่งรวบรวมนกปากขอของเอกชนแห่งหนึ่งที่สามารถเข้าไปชมเพื่อศึกษาได้ คือ “สวนปาล์มฟาร์มนก” ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.30 ถึง 17.00 น. มีช่วงเวลาให้ป้อนอาหารนกแก้วรอบเช้า 09.30 ถึง 12.00 น. รอบบ่าย 14.00-17.00 น. 

หากต้องการสอบถามข้อมูล หรือขอเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อได้ที่หมายเลขโทร– ศัพท์ 08-0587-1911 และ 08-1372-1196
ข้อแนะนำสำหรับผู้เข้าชมคือ ควรไปตั้งแต่ช่วงเช้า เพราะแดดยังไม่แรงมาก และไม่ควรสวมเครื่องประดับ เนื่องจากนกแก้วมีลักษณะนิสัยค่อนข้างซน และชอบแทะเครื่องประดับ
ไปเที่ยวสวนปาล์มฟาร์มนกแล้ว สามารถเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจในจังหวัดฉะเชิงเทราได้อีกหลายแห่ง เช่น วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตลาดบ้านใหม่ ตลาดน้ำบางคล้า คุ้มวิมานดิน เที่ยวแบบนี้ ใช้เวลาแค่วันเดียวก็เกินคุ้มแล้ว...

สถานที่ท่องเที่ยว สยองขวัญของญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่น มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีสถานที่สำคัญๆเก่าแก่มากมาย บางสถานที่ก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่น่ากลัว น่าสยองขวัญ หรือมีตำนานภูตผี แต่ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวลดน้อยลง กลับกลายเป็นสถานที่ที่หลายคนอยากลองไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต เพื่อพิสูจน์ว่ามันน่ากลัวสมคำเล่าลือหรือไม่ จึงขอนำสถานที่ดังกล่าวมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้

อันดับ 5 ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)


ปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทที่เก่าแก่ งดงามและทรงคุณค่าแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่บนเขาฮิเมยามา ที่เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นปราสาทที่ออกแบบสลับซับซ้อน ทั้งด้านในและด้านนอก มีอาคารเชื่อมต่อกันกว่า 83 อาคาร เนื่องจากเป็นปราสาทที่ใช้ป้องกันศัตรูจากภายนอกในยุคสงครามกลางเมือง ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานหลายศตวรรษ

ตำนานความเชื่อเกี่ยวกับปราสาทฮิเมจินั้นมีมากมาย เช่น ถ้าใครอยู่ภายในปราสาทประมาณ 4 โมง ถ้าไม่ออกจากปราสาทภายในเวลา 2 ชั่วโมงจะหลงทาง แต่ตำนานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ ตำนานผีนับจาน หรือซารายาชิกิ (Sarayashiki) ซึ่งว่ากันว่าในจำนวนบ่อน้ำหลายสิบบ่อ ที่สร้างขึ้นในปราสาทแห่งนี้ มีบ่อหนึ่งที่มีผีสิง ซึ่งเป็นวิญญาณของหญิงสาวชื่อ โอกิกุ (Okiku) ที่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม


ความจริงแล้วตำนานโอกิกุ แห่งปราสาทฮิเมจินั้น ค่อนข้างสับสน แต่ตำนานที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ ในอดีตหญิงสาวคนดังกล่าว เป็นสาวใช้ในปราสาทที่ถูกใส่ความ ว่าเธอไปทำจาน ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าของตระกูลแตก เธอเลยถูกฆ่าและนำไปโยนทิ้งในบ่อน้ำ ส่งผลทำให้บ่อน้ำดังกล่าว กลายเป็นบ่อน้ำผีสิง ซึ่งทุกค่ำคืนโอกิกุ จะปรากฏออกมานับจานด้วยน้ำเสียงโหยหวน เศร้าสร้อยสลดใจ

ส่วนอีกตำนานหนึ่งที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน โดยเล่ากันว่าโอกิกุเคยเป็นสาวใช้ของขุนนางคนหนึ่ง ชื่ออาโอยาม่า (Aoyama) วันหนึ่งเธอบังเอิญไปได้ยินความลับสุดยอดของเจ้านายเข้า และนำความลับไปเล่าให้คนรักของเธอฟัง ทำให้แผนการของอาโอยาม่าล้มเหลวในที่สุด อาโอยาม่าจึงวางแผนสังหารเธอ โดยการใส่ความโอกิกุว่าเธอขโมยจานที่ล้ำค่าไป 1 ใบ ซึ่งในชุดจานนั้นจะมี 10 ใบด้วยกัน โอกิกุถูกทรมานจนตาย และทิ้งศพลงบ่อน้ำ นับจากนั้นเป็นต้นมา ในบางค่ำคืนจะมีเสียงนับจานอันโหยหวนออกมาจากบ่อน้ำในปราสาท หรือมีดวงไฟวิญญาณพวยพุ่งออกจากบ่อน้ำยามค่ำคืน


อันดับ 4 โอซาระ (Osore)


โอซาระเป็นอดีตภูเขาไฟในเขตจังหวัดอาโอโมริ ซึ่งถูกค้นพบในศตวรรษที่ 16 เป็นภูเขาหินที่แทบไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ เนื่องจากบริเวณแถบนั้นเต็มไปด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หรือก๊าซไข่เน่าที่ออกจากทะเลสาบโดยรอบ

ตามตำนานความเชื่อของญี่ปุ่นเชื่อกันว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นประตูนรก ที่คนตายและคนใกล้ตายมารวมตัวกัน โดยมีแม่น้ำลำธารเล็กๆ เรียกว่าแม่น้ำซันซึ (Sanzu River) หรือแม่น้ำสามแยกเป็นจุดแบ่งกั้นโลกมนุษย์ (คนเป็น) และวิญญาณ (คนตาย) ออกจากกัน โดยเหล่าวิญญาณในฝั่งคน เป็นจะต้องข้ามไปยังโลกความตายก่อนที่จะโดน ดัทซึเอบะ (Datsueba) และเคเนโอ (Keneo) ปีศาจเพศชายและปีศาจเพศหญิงที่อาศัยต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่เฝ้าสะพานข้ามแม่น้ำจับถอดเสื้อผ้าแขวนต้นไม้ เพื่อชั่งน้ำหนักกรรม

นอกจากนี้ ยังมีตำนานกล่าวกันว่า หากเด็กคนไหนเสียชีวิตลงก่อน พ่อแม่จะถูกลงโทษฐานทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจ วิญญาณของเด็กๆ เหล่านี้จะต้องเรียงหินก้อนเล็กๆ แต่ละก้อน เพื่อสร้างเจดีย์ในบริเวณริมแม่น้ำซันซึ แต่พอใกล้สำเร็จจะถูกปีศาจออกมาทุบทำลาย ทำให้เด็กเหล่านั้นไม่มีทางสร้างเจดีย์เสร็จได้ 

ดังนั้น โอซาระแห่งนี้จึงมีผู้นิยมนำของเล่นโบราณต่างๆ นานา เช่น กังหันเล็กๆ หรือขนมไปไว้บริเวณรอบๆ หรือสร้างศาลเจ้า เพื่อทำบุญกับเด็กนั่นเอง

ปัจจุบันจะมีการจัดงานเทศกาลปีละสองครั้ง ที่วัดโบไดจิ (Bodaiji) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้โอซาระ โดยจะมีการทำพิธีการเข้าทรงโดยอิทาโกะ (Itako) คนทรงตาบอด เรียกวิญญาณผู้ตายเข้าสิงในร่างของตน เพื่อให้คนเป็นสามารถพูดคุยกับคนที่ตายไปแล้วได้


อันดับ 3 เกาะฮะชิมะ (Hashima Island)
เกาะฮะชิมะ แต่เดิมมีชื่อว่า กันคันจิม่า (Gun Kanjima) หรือเกาะแห่งเรือประจัญบาน (Battleship Island) เป็นหนึ่งในหมู่เกาะกว่า 505 แห่ง ในประเทศญี่ปุ่นที่ไม่มีใครอยู่ โดยอยู่ในทะเลจีนตะวันออก ห่างจากเมืองนางาซากิ (Nagasaki) ประมาณ 15 กิโลเมตร

ประวัติของเกาะมีอยู่ว่า ในอดีตประมาณปี 1887 ที่นี่เคยมีประชากรที่ส่วนใหญ่มักเป็นพนักงานทำงานเหมืองแร่ ในยุคที่อุตสาหกรรมถ่านหินเฟื่องฟู โดยบริษัทมิตซูบิชิ (Mitsubishi) ได้ก่อสร้างเมืองขนาดเล็กเอาไว้ เพื่อใช้เป็นที่พักของพนักงาน จนกระทั่งถึงยุคที่น้ำมันปิโตรเลียมมาแทนถ่านหิน มิตซูบิชิได้ประกาศปิดเหมืองอย่างเป็นทางการในปี 1974 และได้ปล่อยเมืองทิ้งร้างเอาไว้ จนกลายเป็นเกาะผี

โดยมีเรื่องเล่าว่า ในตอนกลางคืนช่วงที่มีมรสุม หรือพายุเข้า ชาวประมงมักเห็นแสงไฟจำนวนหนึ่งลอยละล่องวนเวียนเหนือตึกสูง ทั้งๆ ที่ไม่มีไฟฟ้า พร้อมเห็นเงาดำของคนจำนวนมากที่ริมฝั่ง และได้ยินเสียงน่ากลัวดังเหมือนกับโหยหาใครซักคนไปอยู่ด้วย

ครั้งหนึ่งบนเกาะแห่งนี้ เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “แบทเทิล โรเยล 2” (Battle Royale 2) ในปี 2003 และที่นั่นทีมงานได้พบกับเรื่องประหลาดเหนือธรรมชาติในกองถ่ายตลอดเวลา เช่น มีคนอื่นที่ไม่ใช่ทีมงานถูกถ่ายติดเข้ามาในฉากแสดง ฟิล์มเสียทั้งที่เพิ่งใช้งาน แต่เหตุการณ์ที่ผวาที่สุดในกองถ่ายก็คือ นักแสดงหญิงคนหนึ่งถูกอะไรบางอย่างเข้าสิงแล้วเข้ามาทำร้ายคนในกองถ่าย!!


อันดับ 2 อาโอคิกาฮาระ (Aokigahara)


อาโอคิกาฮาระ หรือเรียกอีกชื่อว่า ทะเลป่า (The Sea of Trees) เป็นป่าที่มีพื้นที่ประมาณ 3,000 เอเคอร์ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือบริเวณตีนภูเขาไฟฟูจิ โดยป่าดังกล่าวเต็มไปด้วยโขดหินภูเขาไฟ ถ้ำน้ำแข็ง ถ้ำหิน ป่าไม้เก่าแก่

อาโอคิกาฮาระ เป็นพื้นที่ที่มีตำนานเรื่องเล่าโบราณมากมายว่า เป็นสถานที่สิงสถิตของมารร้ายในเทพนิยายของญี่ปุ่นที่ทำให้ผู้ที่หลงเข้ามาไม่สามารถกลับไปยังโลกภายนอกได้อีก

โดยรายงานทางสถิติพบว่า สถานที่แห่งนี้มีคนมาฆ่าตัวตายมากที่สุด เป็นรองเพียงสะพานโกลเด้น เกต (Golden Gate) ซึ่งความนิยมนี้มาจากอิทธิพลของนิยายเรื่อง ทะเลป่าดำ (Black Sea of Trees) ของนักเขียนไซโซ มัตสึโมโตะ (Seicho Matsumoto) ที่เป็นเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งที่ได้ฆ่าตัวตายในป่าดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงในเรื่องสถานที่ไปฆ่าตัวตายนั้นมีมานานแล้ว โดยสมัยก่อนชาวญี่ปุ่นนิยมพาผู้สูงอายุ ที่เป็นภาระของครอบครัวมาทิ้งในป่าแห่งนี้ และผู้สูงอายุที่ถูกทิ้ง จะต้องอยู่ในป่าลึกหลายวันในสภาพที่ร่างกายขาดน้ำ และอาหารก่อนที่จะเสียชีวิต เพราะอากาศเย็นจัด จนเป็นเหตุให้หลายคนเชื่อว่าป่าแห่งนี้มีผีสิงและวิญญาณร้ายพร้อมจะทำร้ายคนที่เข้ามาในป่า

ตั้งแต่ปี 1950 มีคนมากกว่า 500 คน มาป่าแห่งนี้เพื่อฆ่าตัวตาย ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก คนตกยาก ผู้สูงอายุ โดยวิธีฆ่าตัวตายที่ฮิตที่สุดคือการแขวนคอกับต้นไม้ อีกทั้งในทุกๆ ปีค่าเฉลี่ยการฆ่าตัวตายจะยิ่งเพิ่มขึ้น (ประมาณ 30 คนต่อปี)


อันดับ 1 โรงเรียน (School)


เวลาเราดูสื่อญี่ปุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ, ภาพยนตร์, ละครโทรทัศน์ และการ์ตูน มักมีเรื่องโรงเรียนมาเกี่ยวข้องทุกครั้ง หากแต่สิ่งที่เกี่ยวข้องส่วนมากมัก เป็นเรื่องสยองขวัญในโรงเรียนเสียมากกว่า ซึ่งชาวญี่ปุ่นเองก็มีเรื่องเล่าประเภทดังกล่าวมากมาย โดยเรื่องเล่าหลายเรื่องเต็มไปด้วยความน่ากลัว ระทึกขวัญ แปลกประหลาดไม่เหมือนใคร และที่น่าอัศจรรย์ก็คือ เรื่องเล่าสยองขวัญเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันในทุกโรงเรียน!!

เรื่องเล่าสยองขวัญในโรงเรียนของญี่ปุ่นส่วนมาก มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาเลิกเรียน ซึ่งเชื่อกันว่าในอดีตที่ดินโรงเรียนเคยเป็นป่าช้ามาก่อน สาเหตุเป็นเพราะทางรัฐบาลญี่ปุ่นต้องการสร้างโรงเรียนจำนวนมากเพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนประชากรญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ที่ดินสำหรับสร้างโรงเรียนญี่ปุ่นมีน้อย 

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องสร้างโรงเรียนทับที่ป่าช้า ส่งผลทำให้วิญญาณมากมายไม่มีที่อยู่ ทำให้วิญญาณต้องเข้าไปสิงในสถานที่ต่างๆ ในโรงเรียนแทน


ในโรงเรียน สถานที่ที่มักมีเรื่องผีมากที่สุดคือ ห้องน้ำผู้หญิง โดยเฉพาะด้านในสุดของห้อง มักมีเรื่องเล่าแปลกประหลาดมากมาย เช่น มีมือโผล่จากโถส้วม, เวลากดชักโครกจะมีเลือดไหลแทนน้ำ, เสียงแปลกๆในห้องน้ำที่ล็อกประตู โดยเฉพาะเรื่องของคุณฮานาโกะประจำห้องน้ำ (Miss Hanako of the Toilet) จะได้รับความนิยมมากที่สุด โดยคุณฮานาโกะ มักปรากฏตัวในรูปลักษณ์เด็กผู้หญิงไว้ผมหน้าม้า สวมกระโปรงสีแดง และชอบสิงอยู่ในห้องที่ 3 จากขวามือ (ส่วนมากห้องน้ำในโรงเรียนจะมีฝั่งละ 4 ห้อง) เวลาใครที่เข้าห้องน้ำตอนกลางคืน คุณฮานาโกะจะออกมาหลอกหลอนในรูปแบบต่างๆ ที่น่าสยองขวัญ

บันไดในอาคารเรียนเก่าก็ถือว่าเป็นสถานที่น่ากลัว มีเรื่องเล่าว่าหากเราเดินขึ้น-ลงบันไดในตอนเย็น แล้วพบว่าบันไดมี 13 ขั้น (ปกติบันไดจะมี 12 ขั้น) มันจะเป็นบันไดสู่โลกหน้า และจะคอยจับเด็กดังกล่าวลงไปยังโลกแห่งความตายพร้อมกับตน

นอกจากนี้ ยังมีหลายสถานที่ในโรงเรียน ที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับวิญญาณคน สิ่งของเครื่องใช้มีชีวิตมากมาย เช่น ผีลู่ว่ายที่ 4 ในสระน้ำโรงเรียนที่มีผีเด็กชาย ที่ตายในขณะว่ายน้ำในวิชาพละที่ลู่ว่ายที่ 4, รูปปั้นห้องวิทยาศาสตร์เดินได้, สนามกีฬาโรงเรียนที่วิญญาณซามูไรญี่ปุ่นโบราณยังทำการสู้รบอยู่ตลอดกาลในช่วงตอนกลางคืน เป็นต้น

แม้บรรยากาศโรงเรียนยามค่ำคืนจะน่ากลัวสำหรับใครหลายๆ คน แต่กระนั้นมันก็ท้าทายให้คนอีกกลุ่มที่ชอบเรื่องผีไปท้าพิสูจน์ความกล้าในสถานที่ดังกล่าวอยู่เสมอ