พิพิธภัณฑ์​พระ​บรม​ราช​ชนก ที่​โรงพยาบาล​แมค​คอ​ร์​มิ​ค


เมื่อ 80 กว่า​ปี​ที่​แล้ว เชียงใหม่​นับ​ว่า​เป็น​ดิน​แดน​ที่​ห่างไกล​และ​กันดาร  แต่พระเจ้าลูกยาเธอ​ของ​พระบาท​สมเด็จ​พระ​จุลจอมเกล้า​เจ้า​อยู่​หัว ทรง​อุทิศ​พระองค์​ไป​ทรง​งาน​หนัก​ที่​เมือง​ไกล ใน​ฐานะ​แพทย์​คน​หนึ่ง ซึ่ง​ชาว​เชียงใหม่​เรียก​พระองค์​ท่าน​ว่า “หมอ​เจ้าฟ้า”

หมอ​เจ้าฟ้า​พระองค์​นี้​คือ สมเด็จ​พระ​มหิต​ลา​ธิเบ​ศร อ​ดุลยเดช​วิกรม พระ​บรม​ราชชนก หรือ​สมเด็จ​พระราชบิดา​ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว​รัชกาล​ปัจจุบัน พระองค์​ทรง​จบ​การ​ศึกษา​ด้าน​วิชาการ​ทหาร​เรือ จาก​ประเทศ​เยอรมนี และ​ทรงรับ​ราชการ​ใน​กองทัพ​เรือ​ไทย แต่​ทรง​สน​พระทัย​ทาง​ด้าน​การ​แพทย์ พระองค์​จึง​ทรง​เข้า​ศึกษา​วิชา​สาธารณสุข​ศาสตร์และ​วิชา​แพทยศาสตร์ โดย​ได้​รับ​ประกาศนียบัตร​สาธารณสุข จาก​โรงเรียน​สาธารณสุข ซึ่ง​จัดตั้ง​ขึ้น​โดย​ความ​ร่วมมือ​ระหว่าง​มหาวิทยาลัย​ฮา​ร์​วา​ร์ด​ และ​สถาบัน​เทคโนโลยี​แห่ง​แมส​ซา​ชู​เสต​ต์ และ​ทรง​ได้​รับ​ปริญญา​แพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิต เกียรตินิยม จากมหาวิทยาลัย​ฮา​ร์​วา​ร์ด ประเทศ​สหรัฐอเมริกา

ตลอด​ระยะ​เวลา​ที่​​ประทับ​อยู่​ที่​สหรัฐอเมริกา ทรง​อยู่​ใน​ฐานะ​สามัญ​ชนกับ​พระราชชนนี ใน​นาม​มิสเตอร์​และ​มิส​ซิส​มหิดล สงขลา ทรงบริจาค​เงิน​ช่วยเหลือ​นักศึกษาทั้ง​ชาว​ไทย และ​ชาวอเมริกัน และ​เม็ก​ซิ​กัน​เป็น​จำนวน​มาก ทรง​เหลือ​ไว้​ใช้​จ่าย​ส่วน​พระองค์​แต่​พอดี


เมื่อ​เสด็จกลับ​ประเทศไทย พระองค์​ทรง​ทุ่มเท​ทั้ง​กำลัง​พระวรกาย และ​พระ​ราช​ทรัพย์​เพื่อ​สนับสนุน​วงการ​แพทย์​ไทย พระราชทาน​พระ​ราช​ทรัพย์​เพื่อ​การ​ก่อสร้างและ​ทุน​การ​ศึกษา​ของ​นักเรียน​แพทย์​จำนวน​มาก ก่อ​ให้​เกิด​ประโยชน์​ต่อ​วงการ​แพทย์​ไทย​เป็น​อย่าง​มาก

ใน​ปี พ.ศ.2467 นาย​แพทย์​เอ็ด​วิน ซีคอ​ร์ท ผู้​อำนวยการ​โรงพยาบาล​แมค​คอ​ร์​มิ​ค ได้​กราบทูล​เชิญเสด็จ​เปิด​โรงพยาบาล​แมคคอร์มิ​คของ​คณะ​มิชชั่น ทรง​ตอบ​รับ​และ​ทรง​มี​พระราชประสงค์​เสด็จ​ไป​เชียงใหม่​เป็น​การ​ส่วน​พระองค์ โดย​ทรง​ใช้​พระ​ราช​ทรัพย์​ของ​พระองค์​เอง เพราะ​ทรง​เกรง​ว่า​รัฐบาล​จะ​สิ้น​เปลือง​เกิน​ความ​จำเป็น​ใน​การ​จัดการ​รับรอง


ใน​วัน​ที่ 13 มกราคม พ.ศ.2467 พระองค์เสด็จ​ทำ​พิธี​เปิด​โรงพยาบาล​แมค​คอ​ร์​มิ​ค ท่ามกลาง​ชาว​เชียงใหม่​และ​ชาว​ต่าง​ประเทศ​ที่มา​ชุมนุม​กัน​อย่าง​คับคั่ง ทรง​เห็น​ว่า​โรงพยาบาล​แมค​คอ​ร์​มิ​ค​ใน​เวลา​นั้น ​มี​นาย​แพทย์ อี.ซี.คอ​ร์ท เป็น​นาย​แพทย์​เพียง​ผู้​เดียว ใน​ปี​ต่อ​มา​ได้​พระราชทาน​เงิน​อุดหนุนเป็น​เวลา​สี่​ปี​ให้​แก่​นาย​แพทย์​เฮ​น​รี่ อาร์.โอ.ไบรอัน เพื่อ​มา​ร่วม​ทำ​งาน​ที่​โรงพยาบาล​แมค​คอ​ร์​มิ​ค

นอกจาก​นั้น​ ตรัส​ถามนาย​แพทย์ อี.ซี.คอ​ร์ทว่า ถ้า​ทรง​ได้​รับ​พระราชทาน​พระ​บรม​ราชานุญาต​จาก พระบาท​สมเด็จ​พระมงกุฎเกล้า​เจ้า​อยู่​หัว แล้ว​จะ​ยอม​ให้​ทรง​งาน​ใน​โรงพยาบาล​แมค​คอร์มิ​ค​หรือ​ไม่ ซึ่ง​นาย​แพทย์ อี.ซี.คอ​ร์ทตอบ​รับ​พระกรุณา​ด้วย​ความ​ยินดี​เป็น​อย่าง​ยิ่ง


เมื่อ​ทรง​ได้​รับ​พระ​ราชา​นุญาต​แล้ว จึง​เสด็จ​ไป​ปฏิบัติ​หน้าที่​แพทย์​ที่​โรงพยาบาล​แมค​คอ​ร์​มิ​ค จังหวัด​เชียงใหม่ นาย​แพทย์​จันทร์​แดง เมธา หนึ่ง​ใน​ทีม​แพทย์​ที่​ได้​รับ​การ​ฝึกฝน​จาก​นาย​แพทย์ อี.ซี.คอ​ร์ท ได้​บันทึก​เรื่อง​นี้​ไว้​ว่า “รุ่งเช้า เวลา​เจ็ด​นาฬิกา ของ​วัน​ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2472 ชาว​แมค​คอ​ร์​มิ​ค​ยืน​คอย​กัน​อยู่ มอง​ไป​ยัง​บ้าน​หมอ​คอ​ร์ท​ซึ่ง​อยู่​ไม่​ไกล ไม่​เห็น​มี​ทหาร ตำรวจ หรือ​องครักษ์ กองเกียรติยศ หรือ​ผู้​ติดตาม บ้าน​ของ​หมอ​คอ​ร์ท​ก็​ยัง​เงียบ​เหมือน​ไม่​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น พอ​ถึง​เวลา​แปด​นาฬิกา หมอ​คอ​ร์ท​เดิน​เข้า​ประตู​โรงพยาบาล มี​ชาย​ไทย​คน​หนึ่ง​เดิน​เคียง​ข้าง​มา​ด้วย ชาย​ผู้​นั้น​สวม​เสื้อ​ราชปะแตน​สี​ขาว ไม่​มี​เหรียญ​ตรา​อะไร​ติด​อก​แม้แต่​เหรียญ​เดียว สวม​กางเกง​ฝรั่ง​สี​ขาว สวม​หมวก​บน​ศีรษะ​อย่าง​คน​อังกฤษ เมื่อ​เดิน​เข้า​มา​ถึง​แถว​ที่​ชาว​แมค​คอ​ร์​มิ​ค​ยืน​อยู่ หมอ​คอ​ร์ท​ ก็​บอก​ว่า “พระองค์​ท่าน​เสด็จ​มา​ถึง​เรา​แล้ว”


หลังจาก​นั้น​พระองค์​ก็​เสด็จเข้า​ตึก​ผู้​ป่วย พวก​ที่​ติดตาม​ไป​ด้วย​คิด​ว่า​พระองค์​ท่าน​จะ​เพียง​ทอด​พระเนตร​หมอ​คอ​ร์ท​ตรวจ​ผู้​ป่วย แต่​พระองค์​ท่าน​หา​เป็น​เช่น​นั้น​ไม่ พระองค์​ท่าน​ทรง​ล้วง​กระเป๋า​ฉลองพระองค์​หยิบ​หู​ฟัง​ขึ้น​มา แล้ว​ทรง​เปิด​เสื้อ​ผู้​ป่วย​อย่าง​คล่องแคล่ว ทรง​เปิด​หนัง​ตา​ของ​ผู้​ป่วย ทอดพระเนตร​ที่​ตาขาว พวก​ที่​ติดตาม​มา​หัน​มา​มอง​หน้า​กัน​อย่าง​ภาคภูมิ​ใจ​เป็นอัน​มาก พระองค์​ทรง​เปิด​ท้อง​ผู้​ป่วย ทรง​เคาะ และ​ รับ​สั่ง​กับหมอ​คอร์​ทว่า “มาลาเรีย​ที่​นี่​ชุกชุม​เต็มที​นะ” หมอ​คอ​ร์ท​กราบทูล​ว่า ชุกชุม​อย่าง​น่า​กลัว ผู้​ป่วย​บาง​คน​มี​แผล ผู้​ติดตาม​จะ​เปิด​แผล​ผู้​ป่วย​ให้ แต่​พระองค์​ท่าน​ยื่น​พระหัตถ์​เปิด​แผล​ด้วย​พระองค์​เอง เมื่อ​ทรง​ตรวจ​ผู้​ป่วย​ที่​ตึก​แล้ว ​ก็​เป็น​เวลา​สิบ​นาฬิกา พระองค์​ท่าน​เสด็จออก​ตรวจ​ผู้​ป่วย​นอก ซึ่ง​อยู่​อีก​ตึก​หนึ่ง ผู้​ป่วย​ที่​นี่​แต่งตัว​สกปรก​มอมแมม ไม่​เหมือน​ผู้​ป่วย​ที่​กรุงเทพฯ บาง​คน​บาดแผล​มี​กลิ่น​แรง  เด็กๆ ร้อง​เสียง​ดัง แต่​พระองค์​ท่าน​ไม่​ทรง​รังเกียจ​แต่​ประการ​ใด”

พระ​ราช​จริยวัตร​นี้​เป็น​ที่​ประทับใจ​นาย​แพทย์ อี.ซี. คอ​ร์ท เป็น​ยิ่ง​นัก จึง​ได้​บันทึก​เรื่องราว​กล่าว​ถึง​พระองค์​ว่า “พระองค์​ท่าน​ไม่​ทรง​ปฏิบัติ​งาน​แพทย์​อย่าง​นัก​สมัคร​เล่น​บาง​คน​คิด แต่​ด้วย​ความ​สน​พระทัย​วิชาการ​อย่าง​แท้จริง และเห็น​ว่า​ทรง​โปรด​งาน​นี้​เป็น​อย่าง​ยิ่ง”

พระองค์​ทรง​สน​พระทัย​ผู้​ป่วย​อย่าง​จริงจัง ผู้​ป่วย​ที่​มี​ปัญหา​ทาง​ลำ​ไส้ ก็​จะ​ส่ง​อุจจาระ​ไป​ที่​แล็บ​ทันที เสด็จ​ดู​งาน​ที่​ห้องแล็บ ทรง​กล้องจุลทรรศน์ และ​ทรง​รักษา​ผู้​ป่วย​ด้วย​พระองค์​เอง ใน​ราย​ที่​พระองค์​สงสัย​ว่า​เป็น​วัณโรค พระองค์​จะ​นำ​เสมหะ​ไป​ย้อม​สี​เอง เพราะ​โรงพยาบาล​ยัง​ไม่​มี​เครื่อง​เอกซเรย์ และ​เจ้าหน้าที่​ยัง​ไม่​มี​ความ​เชี่ยวชาญ


พระองค์​เข้า​ร่วม​ผ่า​ตัด​กับ​นาย​แพทย์​คอ​ร์ท​เสมอ พระองค์​ทรง​สน​พระทัย​ผู้​ป่วย​เด็ก​เป็น​พิเศษ คราว​หนึ่ง​ขณะ​เสด็จ​เยี่ยม​โรง​เลี้ยง​เด็ก​ของ​โรงพยาบาล ทรง​พบ​ว่า​หัวนม​ของ​ขวด​นม​ค่อนข้าง​ใหญ่​ไม่​เหมาะ​สำหรับ​เด็ก ทรง​ให้​เปลี่ยน​ให้​มี​ขนาด​ที่​เหมาะสม

ก่อน​เสด็จ​บรรทม ทรง​ถือ​ไฟฉาย​แล้ว​เสด็จ​ไป​ตาม​เตียง​ของ​ผู้​ป่วย พร้อม​กับ​สอบ​ถาม​อาการแล้ว​ จึง​เสด็จกลับ​บ้าน​นาย​แพทย์​คอ​ร์ท แม้​กลางดึก​ก็​ทรง​ลุก​จาก​ที่​บรรทม​มา​ดู​คนไข้​กับ​นาย​แพทย์​คอร์ท และ​ใน​วัน​ที่​นาย​แพทย์​คอ​ร์ท​ไม่​อยู่​​ ตรัส​สั่ง​ให้​พยาบาล​ตาม​พระองค์​ได้​ทุก​เวลา​หาก​มี​คนไข้​มาหา

มี​คนไข้​ราย​หนึ่ง​ชื่อ​เด็กชาย​บุญ​ยิ่ง ถูก​ปืน​ลั่น​เข้าที่​รักแร้ ลูกปืน​ฝัง​ใน เสีย​เลือด​มาก พระองค์​ทรง​ผ่า​ตัด​แขน และ​ถ่าย​เลือด ซึ่ง​เป็น​การ​ถ่ายเลือด​ครั้ง​แรก​ของ​โรงพยาบาล มี​ผู้​รับ​อาสา​มากมาย พระองค์​ทรง​หา​หมู่​เลือด​ที่​เข้า​กัน​ได้ และ​ทรง​เจาะ​พระโลหิต​ของ​พระองค์​ตรวจ​หา​ด้วย แต่ใน​สมัย​นั้น​ยัง​ไม่​มี​ยา​ปฏิชีวนะ​ที่​มี​คุณภาพ เด็กคนนั้น​เสีย​ชีวิต​เพราะ​กระแส​โลหิต​เป็น​พิษ พระองค์ทรง​เฝ้า​ดู​จน​วาระ​สุดท้าย​ของ​เด็ก​นั้น พระเมตตาของ​หมอ​เจ้าฟ้า เป็น​ที่​โจษ​ขาน​ไป​ทั่ว​ทั้ง​เมือง​เชียงใหม่


ที่​ประทับ​ของ​พระองค์คือ ห้อง​หนึ่ง​ใน​ตึก​ที่​นาย​แพทย์​คอ​ร์ท​พัก​อาศัย ไม่ได้​มี​มหาดเล็ก ​หรือ​ทหาร​รับ​ใช้​แม้แต่​คน​เดียว ทรง​เสวย​แบบ​ธรรมดา โดย​ภรรยา​ของ​นาย​แพทย์​คอ​ร์ท​เป็น​ผู้​ทำ​อาหาร​ถวาย นาย​แพทย์​คอ​ร์ท​เขียน​ถึง​พระองค์​ว่า “วัน​หนึ่ง​ภรรยา​ของ​ข้าพเจ้า​ทูล​ว่า​ถุงพระบาท​ขาด จะ​ขอรับ​ชุน​ถวาย ทรง​ยิ้ม​และ​รับสั่ง​ว่า​พระองค์​ไม่​เคย​ใช้​ถุง​แพง ​เพราะ​ไม่​มี​เงิน​ซื้อ ข้อ​นี้​เป็น​ความ​จริง​เพราะ​ทรง​ใช้​เงิน​ช่วย​ผู้​อื่น​แทบ​ทั้งหมด 

นอกจาก​ เสด็จ​มา​ทรง​งาน พระองค์​ยัง​พระราชทาน​เงิน 3,000 เหรียญ​สหรัฐฯ ​ให้​กับ​โรงพยาบาล​แมค​คอ​ร์​มิ​ค เพื่อ​ซื้อ​เครื่อง​เอกซเรย์ ซึ่ง​นับเป็น​เครื่อง​แรก​ที่​มี​ใช้​ใน​ภูมิภาค”

พระองค์​ทรง​ปฏิบัติ​หน้าที่​แพทย์​ประจำ​บ้าน​ได้​เพียง​สาม​สัปดาห์ ก็​ต้อง​เสด็จ​นิวัตพระนคร เพื่อ​ร่วม​ใน​งาน​พระ​เมรุ​ สมเด็จ​พระปิตุลา​บรมพงษาภิมุข เจ้าฟ้า​กรม​พระยา​ภาณุ​พัน​ธุ​วงศ์​วร​เดช หลังจาก​สิ้น​พระ​ราช​พิธี​ถวายพระเพลิง​แล้ว พระองค์​ทรง​มี​พระ​อาการ​ประชวร และ​สิ้นพระชนม์ ใน​วัน​ที่ 24 กันยายน พ.ศ.2472

แม้​ทรง​เสด็จ​สู่​สวรร​คา​ลัย แต่​พระ​ราชกรณียกิจและ​พระ​จริยวัตร​อัน​งดงาม​ของ​หมอ​เจ้าฟ้า ก็​ยัง​เป็น​ที่​เล่า​ขาน​ไม่​มี​วัน​จบ​สิ้น


พิพิธภัณฑ์​พระ​บรม​ราช​ชนก เป็น​แหล่ง​เรียนรู้​ที่​น่า​สนใจ​อีก​แห่ง​หนึ่ง​ใน​เมือง​เชียงใหม่ ที่​คน​รุ่น​หลัง​จะ​ได้​ใช้​ศึกษา​หาความ​รู้​เกี่ยว​กับ​เรื่องราว​ใน​อดีต​สืบ​ต่อ​ไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น