แถวๆ โรงงานแห่งนั้นมีร้านอาหาร ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเบทาโกร ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ มาป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร มีลูกค้านิยมไปอุดหนุนอย่างแน่นขนัด ร้านอาหารแห่งนี้ รู้จักกันใน นาม "ร้านลุงอั๋น สี่แยกพัฒนานิคม" พรรคพวกจากเบทาโกรแนะนำให้ไปชิม ชิมแล้วรสชาติ อาหารทำให้ติดใจ
หากมีกิจธุระไปแถวจังหวัดลพบุรีเมื่อใด ต้องหาโอกาสไปกินอาหารที่ร้านนี้ทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไปพักค้างคืนที่ ลพบุรีอินน์ รีสอร์ต เพราะอยู่ไม่ไกลจากร้านลุงอั๋นที่สี่แยกพัฒนานิคม พอกินอาหารกลางวันเสร็จ ก็ซื้อของอร่อยกลับมาฝากคนทางบ้านอีกด้วย
เสร็จจากการชมโรงงาน ก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี เราจึงตรงไปกินอาหารที่ร้านลุงอั๋น ซึ่งแม้อากาศจะร้อน อุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส แต่เมื่อเข้าไปในร้านก็เย็นสบาย สั่งอาหารอร่อยหลาย อย่างมากิน เริ่มด้วย น้ำมะนาวเย็นเฉียบชื่นใจ คลายร้อน
ส่วนอาหารจานแรกคือ สเต๊กเนื้อหมูสันนอก จิ้มแจ่ว ตามด้วยกระดูกหมูอ่อนกับซอสน้ำแดง กระดูกซี่โครงหมูอ่อนของเบทาโกรนั้นอร่อยมาก กระดูกอ่อนไม่แข็ง กรุบกรับชวนเคี้ยว อร่อยจนต้องสั่งกลับมาฝากคนทางบ้าน
กะหรี่ไก่แห้ง
"ลุงอั๋น" ชื่อจริงคือ นายกุศลเลิศ จุลาณุกะ ภรรยาชื่อ คะแนน เคยไปเป็นเชฟที่ต่างประเทศมาระยะหนึ่ง ก่อนจะมาช่วยงานด้านอาหารของเบทาโกร คิดเมนูที่ผลิตเป็นสินค้าส่งออกของเบทาโกรหลายอย่างด้วยกัน
ในที่สุดก็มาเปิดร้านอาหารของตัวเอง และได้รับความนิยมจากลูกค้าที่มาอุดหนุนกันอย่างเนืองแน่น ทั้งในช่วงมื้อกลางวัน และต่อเนื่องไปจนถึงตอนบ่าย ตอนเย็น
เนื้อจิ้มแจ่ว
กะเพราเนื้อ
จานต่อไป กะหรี่ไก่แห้ง ที่มีน้ำขลุกขลิก ลุงอั๋นพัฒนาอาหารจานนี้ให้เป็นกึ่งแกงกะหรี่ กับแกงกะหรี่น้ำน้อยขลุกขลิกเป็นซอสข้น ทำให้กินเป็น กับข้าวหรือจิ้มขนมปังแบบฝรั่งก็อร่อยจนฝันถึง
ต่อจากกะหรี่ไก่ ลุงอั๋น ย่างเนื้อหมักนุ่ม จิ้มแจ่ว กินกับสลัดผัก ตามด้วย ผัดกะเพราเนื้อ ไข่ดาว กินกับข้าวสวยร้อนๆของน้ำที่ซดให้คล่องคอเป็น ต้มยำกุ้งแม่น้ำจากเขื่อนป่าสัก
สเต๊กหมูพริกไทยดำ
เมื่อจบการกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยลุงอั๋น จะเอามะม่วงจากชาวบ้าน อย่างมะม่วงสุกมาให้ กินเป็นของหวาน ตามด้วยกาแฟตบท้าย เป็นอันเสร็จการรับประทานอาหารที่เอร็ดอร่อย
ก่อนจะกลับก็สั่งแกงกะหรี่ไก่แห้ง กระดูกหมูอ่อนกลับมารับประทานที่บ้าน ทั้งหมดนี้ คือการคลายเครียดด้วยการหนีความวุ่นวายไปกินอาหารร้านลุงอั๋น ท่านผู้ใดจะใช้วิธีคลายเครียดตามนี้ก็ไม่ผิดกติกาแต่ประการใด